ชุดจับกุม แกะรอยรวบ2ผู้ต้องหาเครือข่าย โจ ด่านช้าง พร้อมยาบ้าเกือบ5ล้านเม็ด

การแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 4,960,000 เม็ด อาวุธปืน 1 กระบอก ลูกปืน 14 นัด รถกะบะ 3 คัน รถเก๋ง 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นล็อตใหญ่ ครั้งที่ 4 ในเครือข่ายโจ ด่านช้าง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนมาโดยตลอด และเชื่อว่าผู้ต้องหาได้จำหน่ายยาเสพติดออกไปก่อนหน้านี้แล้วบางส่วนประมาณ 5-6 ล้านเม็ด โดยฉวยโอกาสในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภาระกิจอื่นอยู่ จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ และพบว่าปลายทางที่จะนำไปส่งอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ 

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าการแถลงผลจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่การล่อซื้อแต่เป็นการได้ข้อมูลจากการข่าว ยอมรับว่าเป็นเครือข่ายเดียวกัน กับโจ ด่านช้าง ที่จับกุมได้เมื่อช่วงปลายปี 2560 โดยสังเกตจากสัญลักษณ์หีบห่อ ที่เป็นเลข 9 สี่ตัว อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่จับกุมยาเสพติดได้ มักจะพบอาวุธปืนพร้อมใช้งานติดมาด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอาวุธปืนมีเล่มทะเบียน แต่ต้องรอพิสูจน์ทราบแหล่งที่มาต่อไป พร้อมยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลติดตามตัวการใหญ่อยู่แล้ว

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอยังไม่เปิดเผยชื่อ เพื่อขยายผลต่อ จับได้เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 20.30 น. บริเวณบ้านเลขที่ 1608 / 148 หมู่ 5 ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี  ชุดจับกุม ได้สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มของผู้ต้องหา มีการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นระบบ และได้เช่าบ้านทาวน์เฮาส์ เลขที่ 1608 / 148 หมู่ที่ 5 ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ไว้เป็นที่เก็บยาเสพติด โดยจะใช้รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน ฒ-ผ 4361 กทม. มาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นบ้านและเข้าจับกุมผู้ต้องหาพบอาวุธปืนออโตเมติก พร้อมลูกปืนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะตู้ทึบ บริเวณใต้ที่นั่งด้านคนขับ และพบยาบ้า จำนวน 4,960,000 เม็ดที่บริเวณชั้นล่างของบ้านจึงควบคุมตัว

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่งไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม