อัยการ ฟ้องผู้ต้องหาฆ่าผอ.อ้อย 11ข้อหา โทษหนักถึงประหารชีวิต

นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการจังหวัดกันทรลักษ์ เปิดเผยว่า พนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 38 ปี อดีตผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปนานกว่า 3 เดือน ซึ่งพ่อแม่และญาติพี่น้องได้ออกตามหา และพบโครงกระดูก นาฬิกา และเสื้อผ้าของ ผอ.อ้อย ถูกทิ้งอยู่บริเวณริมถนนทางขึ้นเนิน 500 ใกล้ฐานทหาร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ พบว่าเป็นกระดูกของ ผอ.อ้อย ไปส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดกันทรลักษ์ โดยมี ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กับพวก รวม 4 คน เป็นผู้ต้องหาของคดีนี้ ซึ่งสำนวนคดีมีจำนวน 4 แฟ้ม ประมาณ 3,000 หน้า  นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน และนางแหลม อุ่นอ่อน พ่อและแม่ของ ผอ.อ้อย รวมทั้งญาติพี่น้องได้มาติดตามเรื่องนี้ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ด้วย ทั้งนี้ การส่งฟ้อง ไม่ได้มีการเบิกตัวร.อ.ศุภชัย ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ มาที่ศาล คาดว่าจะนำตัวมาที่ศาลในวันที่ 8 ม.ค.นี้ โดยพนักงานอัยการ จ.กันทรลักษ์ ได้คัดค้านการประกันตัวจำเลยที่ 1 คือ ร.อ.ศุภชัย ส่วนจำเลยที่ 2 - 4 ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากมีข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร ร่วมกันเอาเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม

นายศักดา กล่าวว่า แม้คดีนี้พนักงานสอบสวนจะไม่มีประจักษ์พยาน แต่จากพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมาครบถ้วน เช่น พยานทางโทรศัพท์ การติดต่อทางโทรศัพท์ พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งหลักฐานการโอนเงินต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานทางโทรศัพท์ที่ชี้ชัดว่า ผอ.อ้อย และผู้ต้องหาไปด้วยกันตลอดในวันที่ ผอ.อ้อยหายตัวไป โดยได้แจ้งข้อหากับ ร.อ.ศุภชัย จำนวน 11 ข้อหา รวม 13 กระทง ข้อหาหนักที่สุดคือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ลอบฝังซ่อนเร้นอำพรางศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ซึ่งมั่นใจว่าพยานหลักฐานต่าง ๆ มีความครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลจังหวัดกันทรลักษ์ 

ด้านนายบุญเลิศ กล่าวว่า ดีใจที่พนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ ได้สั่งฟ้องผู้กองเหน่งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทำให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าลูกสาวจะไม่ตายฟรี หวังว่าผู้ต้องหาจะได้รับโทษตามกฎหมาย เชื่อมั่นว่าเป็นผู้ต้องหารายนี้อย่างแน่นอน

แฟ้มภาพ