จากกรณีเกิดกระแสข่าว ว่านักบินจำนวน 200 คน ยื่นใบลาออกจาก บริษัท การบินไทย เนื่องจากความไม่มั่นคงของบริษัท โดยเตรียมไปสมัครสายการบินคู่แข่งเนื่องจากมีโอกาสก้าวหน้ามากกว่า ล่าสุดบริษัท การบินไทย โดย พลอากาศเอก ศิวเกียรติ์ ชเยมะ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แถลงข่าวชี้แจงว่า กระแสข่าวนักบินลาออก 200 คน เป็นยอดรวม 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2553 ที่มีนักบินและผู้ช่วยนักบินลาออกเฉลี่ยปีละ 30-40 คน ยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติของการเปลี่ยนแปลงหน้าที่การงานและความก้าวหน้าส่วนบุคคล ไม่กระทบกับการให้บริการและการพัฒนาสายการบินอย่างแน่นอน ทั้งนี้บริษัทการบินไทย มีนักบินทั้งสิ้น 1,350 คน ทุกคนมีคุณภาพสูงเพราะผ่านการฝึกฝนนานถึง 8 ปี จึงเป็นเรื่องปกติของอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง ที่บริษัทอื่นพร้อมจ่ายเงินจำนวนมากในการซื้อตัวนักบิน
ทางด้าน ร้อยโท อธิศักดิ์ พัดชื่นใจ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ตามระเบียบการรับนักบินของบริษัทการบินไทย จะรับจากนักเรียนนายเรืออากาศและการสอบคัดเลือกเข้ามาเป็น Student Pilot เฉลี่ยปีละ 100 คน โดยใช้เวลาเรียนอีก 2 ปี บริษัทจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้คิดเป็นมูลค่า 4,000,000 บาทต่อคน เมื่อผ่านหลักสูตรทั้งหมดจะต้องเซ็นต์สัญญาอยู่กับบริษัทอย่างน้อย 8 ปี ทั้งนี้ตามระเบียบผู้ที่จะขึ้นมาเป็นกัปตันเครื่องบินของบริษัทการบินไทย จะต้องเป็นพนักงาน 4 ปี เคยบิน 8 ปี มีอายุไม่เกิน 60 ปี และเรียงลำดับตามอาวุโส ดังนั้นนักบินบางคนที่อายุมากจึงย้ายงานหากมองว่าบริษัทอื่นให้โอกาสที่ดีกว่า ซึ่งส่วนใหญ่มักไปสายการบินตะวันออกกลางที่มีรายได้สูงกว่า หรืออาจไปสายการบินโลวคอสที่สามารถบินได้ถึงอายุ 65 ปีตามกฏกรมการบินพลเรือน
นอกจากนี้ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ยืนยันว่า บริษัทไม่ได้มีการขึ้นแบล็คลิสท์นักบินที่ลาออก เพราะถือว่ายังอยู่ในแผนการเออร์ลี่รีไทร์พนักงานระยะยาว 5 ปี ที่กำหนดยอดรวมไว้ที่ 6,000 คน ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเดินหน้าแผนการฟื้นฟูสายการบินไทยให้กลับมาเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคให้ได้ภายใน 2 ปี โดยล่าสุดซุปเปอร์บอร์ดรัฐวิสาหกิจได้ส่งแผนพัฒนากลับมา เสนอให้มีการตั้งอนุคณะกรรมการขึ้นอีกชุดในการหาทางออกเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะผลประกอบการรวมยังอยู่ในเกณฑ์ขาดทุน
...ผสข.อภิสุข เวทย์วิศิษฐ์