+++นายดาเนียล ไนโกร หัวหน้าหน่วยดับเพลิงนครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ แถลงว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสูง 3 ชั้นในย่านบร็องซ์ของนครนิวยอร์ก ใกล้กับสวนสัตว์บร็องซ์ เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ เร่งดับไฟและช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในออกมาได้ทั้งหมด 16 คน เป็นผู้ใหญ่ 7 คนและเด็ก 9 คน ได้รับบาดเจ็บแต่อาการไม่รุนแรง เจ้าหน้าที่ รีบนำส่งโรงพยาบาล ทุกคนปลอดภัย
+++สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เพียง 4 นาทีหลังแจ้งเหตุเพลิงไหม้ หน่วยดับเพลิงราว 200 คน พร้อมรถดับเพลิงอีกหลายสิบคันเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ
+++ต้นเพลิงเกิดจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ที่อยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร ผู้อยู่อาศัย รายหนึ่ง เปิดเผยว่า เมื่อเกิดเหตุรีบหนีออกจากตัวอาคารในสภาพที่ไม่สวมรองเท้าและเสื้อ แต่ก็พาลูกออก มาได้ 3 คน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิ -10องศาเซลเซียส
+++เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธ.ค.2560 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารอพาร์ตเมนต์สูง 5 ชั้นในย่านบร็องซ์ใกล้กับสวนสัตว์บร็องซ์เช่นกัน ต้นเพลิงเกิดจากเด็กชายวัย 3 ขวบเล่นจุดไฟบนเตา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 ศพ แม่ของเด็กได้ยินเสียงเด็กร้อง จึงตรงเข้าไปคว้าตัวลูกทั้ง 2 คน ออกมาได้ แต่เพลิงก็ได้โหมลุกลามไปชั้นอื่นๆ อย่างรวดเร็ว เด็กที่เสียชีวิต 4 ศพมีอายุเพียง 1 ขวบ 2 ขวบ และ 7 ขวบ ส่วนอีก 1 คนยังไม่สามารถระบุอายุได้ ส่วนผู้ใหญ่ที่เสียชีวิตนั้นประกอบด้วยชาย 4 คนและผู้หญิงอีก 4 คน
ด้านนายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กกล่าวว่า เป็นโศกนาฏกรรมเพลิงไหม้ที่รุนแรงที่สุดในนครนิวยอร์กในรอบ 25 ปี
+++โทรทัศน์อาร์เอไอ รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในเมืองเบรสชาว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนรุนแรงบนทางหลวงสายเอ21 รถบรรทุกทรายชนกับรถยนต์คันหนึ่ง แล้วก็หันไปชนกระแทกอย่างแรงกับรถบรรทุกวัตถุไวไฟ เป็นของเหลวติดไฟ จนทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง ในประเทศอิตาลี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ โดย 5 ศพ เป็นเด็ก 2 คนอยู่ในรถยนต์คันเดียวกัน อีก 1 ศพเป็นคนขับรถบรรทุก จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้การจราจรบนทางหลวงสายเอ21 ชะลอตัว เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ต้องอยู่ห่างออกมา 1.5 กม.จากจุดที่รถบรรทุกเกิดไฟไหม้รุนแรงหลังอุบัติเหตุ มีกลุ่มควันดำลอยขึ้นไปบนฟ้ามองเห็นได้แม้จะอยู่ไกลหลายไมล์
+++ไปที่อิหร่าน เจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ว่าการกรุงเตหะราน เปิดเผยกับสำนักข่าวอิลนาว่า มีผู้ถูกจับกุม 200 คน พร้อมกับพูดถึงสถานการณ์ในกรุงเตหะรานว่าดีขึ้นกว่าหลายวันก่อน กรุงเตหะราน ยังไม่ได้ขอให้กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากมีการชุมนุมประท้วงไม่มากเมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ
+++มีผู้เสียชีวิต 9 ศพที่จังหวัดอิสฟาฮาน ทางตอนกลางของประเทศ ประกอบด้วยผู้ประท้วง 6 คนที่พยายามบุกสถานีตำรวจ ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงตั้งแต่วันพฤหัสบดีเพิ่มเป็น 22 ศพแล้ว ด้านผู้สนับสนุนรัฐบาลพากันออกมาแสดงพลังทั่วประเทศเช่นเดียวกับผู้ประท้วง
+++อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ตำหนิศัตรูของอิหร่านว่า อยู่เบื้องการสร้างความวุ่นวายขึ้นในประเทศในระยะนี้ ด้วยการใช้เครื่องมือต่างๆรวมถึงเงินทอง,อาวุธ,การเมืองและข่าวกรองเพื่อก่อเหตุวุ่นวายขึ้นในอิหร่าน เป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ในตอนแรกการประท้วงเริ่มต้นด้วยความไม่พอใจเรื่องเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่แพงขึ้น แต่ขณะนี้เริ่มกลายมาเป็นกระแสประท้วงขับไล่รัฐบาลและเริ่มมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
+++ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯทวีตชื่นชมผู้ประท้วงว่ากล้าหาญในการขัดขืนคำสั่งของรัฐบาล พลเมืองอิหร่านถูกกดขี่มาหลายปีแล้ว
+++กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ขอให้อิหร่านเปิดโอกาสให้พลเมืองอิหร่านใช้สิทธิ์การประท้วงอย่างสันติ อียูได้ติดต่อสื่อสารกับทางการอิหร่านและจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
+++สถานการณ์สองเกาหลี นายโช มยอง กยอน รัฐมนตรีกระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ แถลงว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ เต็มใจที่จะจัดการเจรจากับเกาหลีเหนือ ไม่ว่าจะในรูป แบบไหน เวลาใดและสถานที่ใด ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ที่อาคารพีซเฮ้าส์ ในหมู่บ้านปันมุนจอม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปลอดทหารที่แยกสองเกาหลีออกจากกัน นายโช หวังว่า ตัวแทนของทั้งสองประเทศจะนั่งหารือกันเกี่ยวกับการส่งคณะนักกีฬาของเกาหลีเหนือเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จะจัดขึ้นที่เมืองพยองชังระหว่างวันที่ 9-25 กุมภาพันธ์นี้ รวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี
+++ด้านประธานาธิบดีมูน แจ อินของเกาหลีใต้ ก็ได้แสดงความยินดีต่อท่าทีล่าสุดของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเช่นกัน โดยกล่าวว่า นี่อาจเป็นโอกาสในการเริ่มต้นการเจรจากัน
+++ขณะที่ กระทรวงต่างประเทศจีน แถลงสนับสนุนการเจรจาระหว่างสองเกาหลี ซึ่งหากการเจรจาระดับสูงของสองเกาหลีเกิดขึ้นจริง ก็จะนับเป็นการเจรจาระดับสูงครั้งแรกนับตั้งแต่มีการประชุมระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีของสองประเทศเมื่อเดือนธันวาคมปี 2558
+++หลังพายุดีเปรสชั่นพัดถล่มทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ จนทำให้ไฟฟ้าดับ น.ส.จิล อคอสตา เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เกาะเซบู ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพบนเกาะเซบู รายแรกเป็นหญิงสูงวัยเสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม ส่วนอีกรายเป็นผู้ชายเสียชีวิตเพราะลื่นล้มหัวกระแทกพื้น สำนักงานป้องกันพิบัติภัยแห่งชาติของฟิลิปปินส์ที่กรุงมะนิลา แถลงว่าประชาชน 4,000 ทั่วพื้นที่ตอนกลาง ต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว เพราะอาจมีกระแสลมกระโชกแรง พายุฝนฟ้าคะนองและน้ำท่วม
+++นับเป็นพายุรุนแรงล่าสุดที่พัดถล่มต่อเนื่องในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วมีพายุโซนร้อนไคตั๊กพัดถล่มตอนกลางของฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิต 47 ศพ ส่วนที่เกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ มีพายุโซนร้อนเทมบินพัดถล่ม พบผู้เสียชีวิต 240 ศพ
CR:BBC