สื่อมวลชนต่างประเทศรายงานว่า อิหร่านได้ตัดช่องทางการใช้อินเทอร์เน็ตของประชาชนผ่านโทรศัพท์มือถือในช่วงก่อนเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหวังสกัดการปลุกระดมมวลชนลุกฮือต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากไม่พอใจความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการทุจริตท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า รัฐบาลอิหร่านสั่งห้ามประชาชนเดินทาง และปิดกั้นสื่อมวลชนเกือบทั้งหมดมิให้นำเสนอรายงานข่าวการประท้วง เนื่องจากเกรงว่า การรายงานข่าวและการส่งต่อภาพและวิดีโอการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่างๆ กระทั่งภาพผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเป็นจำนวนหลายคน จะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไม่ได้รับการพิสูจน์ตรวจสอบ ทั้งนี้ เหตุการณ์ประท้วงทางการเมือง ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนักในอิหร่าน ได้สร้างความอลหม่านในหลายเมืองทั่วประเทศ โดยเฉพาะรอบมหาวิทยาลัยในกรุงเตหะราน โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ปิดทางเข้าออกมหาวิทยาลัย และการจราจรตามท้องถนนสายต่างๆ กับโจมตีศาลาว่าการแห่งหนึ่งในตัวเมืองหลวง แม้นายอับดอลราห์มัน ราห์มานี่ ฟาซลี่ รมว.กิจการภายในของอิหร่าน จะออกมาเตือน ว่าเป็นการชุมนุมผิดกฎหมายเพราะไม่ได้ขออนุญาต ขณะที่อยาตอลเลาะฮ์ โมห์เซน อารากี บุคคลสำคัญทางศาสนาในอิหร่าน เห็นว่า ฝ่ายตรงข้ามต้องการสร้างแผนการใหม่ โดยหวังใช้สื่อสังคมออนไลน์และประเด็นเศรษฐกิจปลุกระดมมวลชนลุกฮือต่อต้านรัฐบาลครั้งใหม่ ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านก็ได้ออกมาตอบโต้การทวีตข้อความประณามการจับกุมผู้ประท้วงอิหร่านผ่านทางทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ว่า เป็นการฉวยโอกาส ทั้งนี้ อิหร่านเผชิญปัญหาท้าทายที่สำคัญ ทั้งการทุจริตปัญหาช่องว่างทางสังคม การจัดสรรงบประมาณไม่สมดุล อัตราการว่างงานสูงถึงร้อยละ 12 อัตราเงินเฟ้อสูงร้อยละ 8 น้ำมันและสินค้าต่างๆ ราคาแพงขึ้น รวมถึงปัญหาขาดแคลนน้ำ
…
(1210 F171)