นักวิเคราะห์ ต่างคาดการณ์ว่าการซื้อขายหุ้นในสหรัฐฯ ปี 2561 ยังคงจะเติบโตขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากการที่กฎหมายปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลง จึงน่าจะส่งผลให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีกำไรเพิ่มขึ้นและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนระบุว่า มาตรการลดภาษีอาจจะให้ผลดีในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิต โดยปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในปีหน้าคืออัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นตามการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้ บรรยากาศการลงทุนในช่วงเดือนหน้าอาจจะขึ้นอยู่กับการหารือเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของสภาคองเกรส และการจับตามองการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีขึ้นในปีหน้าอย่างใกล้ชิด เพราะคาดว่าอาจส่งผลต่อนโยบายการบริหารประเทศในอนาคต เนื่องจากพรรครัฐบาลรีพับลิกันอาจเสียการครองที่นั่งส่วนใหญ่ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้
ทีมต่างประเทศ
CR:File Photo Reuters