ดูแลปชช.ชมพระเมรุมาศก่อนปิดพื้นที่ 31 ธ.ค./ธปท.ห่วงภาวะหนี้ครัวเรือนสูง/ติดตามนโยบายของเฟดหลังเปลี่ยนตัวปธ.

29 ธันวาคม 2560, 19:30น.


+++การเข้าชมพระเมรุมาศ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมถึงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ยืนยันว่า กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีมีความพร้อมในการรองรับประชาชนจำนวนมากที่จะมาในวันสุดท้าย มีประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศสูงสุดถึง 150,000 คน ต่อวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลได้ และเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ก็อยากฝากประชาสัมพันธ์ว่า วันที่ 31ธันวาคม 2560 จะปิดพื้นที่ในเวลา 22.00 น.



+++พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ได้กำชับสั่งการในวันทำการสุดท้ายของสิ้นปี 2560 ให้หน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง มีความตื่นตัวและประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพิ่มความเข้มข้นลงพื้นที่ในการติดตามความเคลื่อนไหว เฝ้าระวังและดำเนินมาตรการเชิงรุกต่อเป้าหมายพื้นที่จุดเสี่ยงความมั่นคง บุคคลและเครือข่ายกลุ่มบุคคลที่เป็นภัยกับสังคม รวมทั้งการเคลื่อนย้ายสิ่งของผิดกฎหมายทั้งในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในโดยเฉพาะยาเสพติด คาดว่าจะมีการลักลอบลำเลียง เคลื่อนย้ายในช่วงปีใหม่



+++พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขยายผลจากการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรม ลงลึกเชื่อมโยงให้ถึงผู้มีอิทธิพลรายใหญ่หรือนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ควบคู่กับการคงความเข้มบังคับใช้กฎหมายที่มุ่งเน้น การสร้างความสงบสุขและความปลอดภัยของสังคมอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปลอดภัย 



+++พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจภาพ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกเผยแพร่ตามสื่อโซเชียล และอ้างว่า เป็นภาพการปรากฎตัวครั้งแรกของนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ประเทศอังกฤษ หลังหลบหนีไม่มาฟังคำตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าว พล.ต.ปิยพงษ์ กล่าวว่า สำหรับในช่วงนี้ คสช. คงมุ่งหน้าดำเนินการดูแลรักษาความสงบ ความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยได้มอบหมายสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน บูรณาการปฏิบัติงาน เพื่อช่วยกันป้องกัน และลดอัตราการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บตลอดจน ลดอุบัติเหตุ บนท้องถนนให้มากที่สุด เพื่อสร้างบรรยากาศของห้วงเวลาแห่งความสุขในเทศกาลปีใหม่ 2561 นี้



+++นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ คดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 5 ปี กล่าวถึงกรณีที่มีรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปรากฎตามการรายงานข่าวของสื่อมวลชนว่า ตั้งเเต่ศาลฎีกาฯอ่านคำพิพากษาลับหลังมา ก็ยังไม่สามารถติดต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์เลยสักครั้ง รูปที่บอกว่า อยู่ที่ประเทศใดนั้น ก็ทราบจากการรายงานข่าวของสื่อมวลชน ส่วนคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในขณะนี้ถือว่า สิ้นสุดตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ที่ลงโทษจำคุก5ปีไปเรียบร้อยเเล้ว เนื่องจาก อัยการโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกา เเละไม่ได้ขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์คำพิพากษาออกไป เมื่อครบกำหนด 30 วันคดีจึงถือเป็นที่สิ้นสุด เมื่อถามว่าได้ส่งคำพิพากษาฉบับเต็มไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์เเล้วหรือไม่ นายนรวิชญ์กล่าวว่า ไม่ได้ส่งไป เเละไม่ได้ติดต่อกัน ซึ่งคำพิพากษาศาลฎีกาฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถเปิดดูได้ทางเว็ปไซต์อยู่แล้ว            



+++เรื่องเศรษฐกิจ นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน  ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2561 ยังขยายตัวต่อเนื่อง เติบโตร้อยละ 3.9 จากการส่งออก คาดว่าขยายตัวร้อยละ 4  และการท่องเที่ยว ขณะที่ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และ กำลังซื้อในประเทศที่ยังกระจายตัวไม่ทั่วถึง และภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง ซึ่งแม้จะภาวะหนี้จะลดลงบ้างแต่ยังไม่อยู่ในระดับที่ทำให้การใช้จ่ายเร่งตัวมากกว่านี้  ทำให้การใช้จ่ายค่อยเป็นค่อยไป การจ้างงานและรายได้ของแรงงานยังไม่ได้รับผลดีอย่างเต็มที่จากการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม คาดการบริโภคภาคเอกชนปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 3.1 



+++นายจาตุรงค์ กล่าวว่า แม้จะเห็นสัญญาณการลงทุนในหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น แต่ยังมีภาคธุรกิจบางส่วนชะลอการลงทุน เนื่องจากมีกำลังการผลิตเหลืออยู่ ในระยะต่อไป การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และ การเร่งพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  จะมีส่วนช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น และจะดึงเม็ดเงินให้เอกชนลงทุนตาม โดยคาดการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 2.3



+++นายจาตุรงค์ กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ยังติดตามพฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ( Search for Yield)ในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ  โดยเฉพาะความสามารถในการประเมินความเสี่ยงของ ประชาชนในการลงทุน ที่บางส่วนอาจประเมินความเสี่ยงไม่ถูกหรือต่ำเกินไป โดยขณะนี้กนง.ติดตามการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ ( FIF) ที่ขยายตัวสูงต่อเนื่อง และ มีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของการลงทุนในไม่กี่ประเทศ



+++นางสาวพรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการ สำนักวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ  ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2560 ขยายตัวได้ดี จากมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวได้ ร้อยละ 12.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกระจายตัวในทุกตลาดส่งออกสำคัญ สอดคล้องกับความต้องการต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวได้ดี



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย อยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน เป็นวันสุดท้ายของการซื้อกองทุนแอลทีเอฟ อาร์เอ็มเอฟ ทำให้เกิดการเข้าซื้อเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,753.71 จุด เพิ่มขึ้น 10.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,370.70 ล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 55.44 จุด ปิดที่ 29,919.15 จุด นักลงทุน จับตาเหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งรวมถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะประกาศแผนการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมทั้งจับตานโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟด ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ในเดือนก.พ.ปีหน้า

+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น  ปิดลบ 19.04 จุด แตะระดับ 22,764.94 จุด



+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างโฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ว่า หน่วยดูแลชายฝั่งของเกาหลีใต้ได้ยึดเรือไลท์เฮาส์วินมอร์ ที่จดทะเบียนในฮ่องกง ฐานลักลอบขนถ่ายน้ำมันกลั่นลงเรือเกาหลีเหนือในน่านน้ำสากล ซึ่งเป็นการละเมิดมติการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) สำหรับเรือดังกล่าวเป็นเรือที่เช่ามาโดยบริษัทบิลเลียนส์ บังเกอร์ กรุ๊ปของไต้หวัน



+++ก่อนหน้านี้ เรือดังกล่าวแล่นจากไต้หวันไปยังท่าเรือโยสุในเกาหลีใต้ จากนั้นเรือได้แล่นไปถ่ายโอนน้ำมันกลั่นลงเรือเกาหลีเหนือในน่านน้ำสากลเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ต่อมาหน่วยดูแลชายฝั่งของเกาหลีใต้ สกัดจับเรือดังกล่าวหลังแล่นออกจากน่านน้ำสากลมุ่งหน้ายังเกาะไต้หวันเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน



+++โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ ระบุว่า มติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของยูเอ็นห้ามไม่ให้มีการถ่ายโอนสินค้าทุกประเภทลงยังเรือเกาหลีเหนือ ขณะนี้เรือดังกล่าวถูกยึดขณะที่ลูกเรือชาวจีน 23 คนและชาวเมียนมา 2 คนของเรือดังกล่าวถูกขังระหว่างการสอบสวน เพิ่มเติมว่าพวกเขาจะสามารถเดินทางออกนอกประเทศเกาหลีใต้ได้ก็ต่อเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ด้านรอยเตอร์เพิ่มเติมว่าเรือไลท์เฮาส์ วินมอร์เป็นหนึ่งในเรือ 10 ลำที่สหรัฐฯขอให้ยูเอ็นสั่งห้ามไม่ให้แล่นเข้าจอดยังท่าเรือระหว่างประเทศในเดือนนี้หลังต้องสงสัยว่ามีการติดต่อทางธุรกิจกับเกาหลีเหนือ



แฟ้มภาพ 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X