ป.ป.ส.สุ่มตรวจสารเสพติดที่สายใต้ใหม่ พบคนขับรถเสพกัญชา 1 รายสั่งสอบ เข้ารับการบำบัดทันที

การดูแลความเรียบร้อยเทศกาลปีใหม่ 2561  สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ได้ลงพื้นที่บริเวณสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่ ) เพื่อรณรงค์ลดการใช้ยาเสพติดในผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ รวมถึง ตรวจสารเสพติดในผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะและตรวจวัดแอลกอฮอล์

นางสาวจันทร์เพ็ญ จิตร์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กองทัพบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล และบริษัท ขนส่ง จำกัด พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ดูแลสุนัขตำรวจจำนวน 6 ชุด ลงพื้นที่ตรวจสารเสพติด วัตถุระเบิด รวมถึง ตรวจสอบปัญหาอาชญากรรมในสถานีขนส่ง ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อมอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

จากการลงพื้นที่ตรวจสารเสพติดและวัดแอลกอฮอล์ ในผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ จำนวน 16 ราย วันนี้ พบพนักงานขับรถโดยสาร 1 ราย เสพสารเสพติดประเภทกัญชา ซึ่งผู้ขับขี่รถโดยสารรายนี้ ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าเสพกัญชาจริง มาประมาณ 20 วัน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว สอบปากคำ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป โดยกระบวนการต่อไป จะแจ้งให้กับสถานประกอบการทราบ ก่อนจะส่งผู้ขับขี่ที่พบสารเสพติด ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมประสานกับสำนักงาน ป.ป.ส. ให้เข้ารับการอบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ศูนย์คัดกรองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในสูตรคัดกรองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อนำผู้ที่ตรวจพบสารเสพติดเข้าการบำบัดรักษาเป็นระยะเวลา 12 วัน หลังจากนั้นจึงจะสามารถกลับมาขับรถโดยสารสาธารณะได้ตามปกติ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่รายนี้ได้ยอมรับว่าเสพกัญชาจริง จึงถือว่าสมัครใจเข้ารับการอบรม โดยจะไม่มีประวัติยาเสพติดและได้รับความผิด พร้อมทั้งถูกจัดอยู่ในข่ายผู้ป่วย ที่จะได้รับการบำบัดรักษา เนื่องจากสาเหตุอาจมาจากเพื่อความบันเทิงหรือหลงผิด

ขณะที่ การลงพื้นที่ตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้กระจายกำลังลงตรวจตามสถานีขนส่งต่างๆ โดยความรับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ส. ทั้ง 9 ภูมิภาค รวมถึงประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้เรื่องของยาเสพติดและการป้องกัน ทั้งนี้ได้เน้นย้ำกับประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดโดยใช้บริการที่สถานีขนส่งไม่ให้รับฝากของจากคนแปลกหน้า เนื่องจากสิ่งของที่รับฝากอาจมีสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติดบรรจุอยู่ รวมถึงช่วยดูแลลูกหลานของตัวเองและหากพบสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งข้อมูลข่าวสารมาที่สายด่วนป.ป.ส. 1386

ผู้สื่อข่าว: เกตุกนก ครองคุ้ม