สตม.เข้มต่างชาติต้องการไปประเทศที่ 3 พร้อมช่วยซิมบับเว ยันไม่กระทบICAO

หลังมีครอบครัวชาวซิมบับเวจำนวน 8 คน อยู่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจาก ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศปลายทาง และมีสถานะอยู่เกินกำหนดของไทยทำให้ไม่สามารถกลับเข้าไทยได้ พันตำรวจเอกเชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง2 เปิดเผยว่า  ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำเรื่องของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการส่งครอบครัวชาวซิมบับเวไปยังประเทศที่ 3 ยังไม่ทราบว่าต้องใช้เวลาดำเนินการนานแค่ไหน แต่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)ได้เตรียมแผนรองรับหากใช้ระยะเวลาดำเนินการนาน โดยจะพาครอบครับชาวซิมบับเว มาที่ห้องพักรอ ภายใต้การดูแลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสวนพลู การดำเนินการทั้งหมดจะยึดหลักมนุษยธรรม และปฏิบัติตามกฏหมายระหว่างประเทศ

พันตำรวจเอกเชิงรณ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในไทย จากการตรวจสอบครอบครัวดังกล่าวไม่มีเจตนาที่จะใช้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 แต่คาดว่า เกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบของประเทศต้นทาง พร้อมเชื่อว่าจะไม่มีการใช้เหตุการณ์นี้เป็นแบบอย่าง และเบื้องต้นจากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีชาวต่างชาติที่กระทำลักษณะนี้ หลังจากนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางไปประเทศที่ 3 หรือเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล  ยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ไม่ถือว่ากระทบต่อข้อกำหนดด้านความรักษาความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ​หรือ ICAO

ทั้งนี้ มีการประสานกับ UNHCR ทราบว่าจะมีการเร่งรัดเหตุการณ์นี้เป็นกรณีพิเศษ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการส่งไปยังประเทศที่ 3 และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อกฏหมายตามหลักสากลทั้ง 3 ฉบับ ที่มีการทำร่วมระหว่างประเทศ คือ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง , อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ