เอเอฟพี รายงานอ้างนายปูตู เอกา เมอร์ธาวาน เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมประจำเกาะบาหลีของอินโดนีเซียว่า รัฐบาลท้องถิ่นเกาะบาหลี ประกาศภาวะฉุกเฉินบริเวณพื้นที่ชายหาด รวมระยะทาง 6 กิโลเมตร เนื่องจาก มีปริมาณขยะพลาสติกและเศษอาหารเกลื่อนชายหาดจิมบารัน, หาดเซมินยัก และหาดคูตา มีการระดมเจ้าหน้าที่เก็บขยะ 700 คนและรถเก็บขยะ 35 คันจัดเก็บขยะราว 100 ตันต่อวัน ไปยังจุดกำจัดขยะแห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียง
ชายหาดดังกล่าว มีทัศนียภาพที่สวยงาม เคยถูกเรียกขานว่าเป็นเสมือนสวรรค์บนพื้นดินสำหรับนักท่องเที่ยว มีต้นปาล์มขึ้นตลอดชายหาด และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวอาบแดดและเล่นกีฬาโต้คลื่น แต่ปัญหาขยะเริ่มทำลายภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นในระยะยาว
ด้านน.ส.วาเนซซา มูนไชน์ นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ระบุว่า เมื่อเธอลงไปว่ายน้ำริมหาดดังกล่าว เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักเนื่องจากเห็นขยะจำนวนมากลอยอยู่ในจุดที่เธอว่ายน้ำอยู่เป็นประจำ พบว่าเป็นขยะที่ลอยมาตามทะเล ทำให้เธอรู้สึกแย่มาก
นายเกเด เฮนดราวาน นักวิจัยสิ่งแวดล้อมทางทะเล มหาวิทยาลัยอูดายานา ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะบาหลี ระบุว่าทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ต้องร่วมรับผิดชอบเรื่องปัญหาขยะบนเกาะบาหลี เรียกร้องให้หน่วยงานท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณด้านการเก็บและกำจัดขยะให้มากขึ้น และจัดโครงการรณรงค์สร้างจิตสำนึก ไม่ให้ชาวบ้านทิ้งขยะลงตามแม่น้ำลำคลองและทะเล
ขณะที่รัฐบาลกลางของอินโดนีเซีย ควรจะจัดทำโครงการรณรงค์ให้ประชาชนงดใช้ถุงพลาสติก พร้อมทั้งห้ามร้านสะดวกซื้อต่างๆใช้ถุงพลาสติกบรรจุสินค้าให้กับลูกค้า จะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกตามแหล่งท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP