ผลผลิตอุตสาหกรรมพ.ย.ขยายตัว/สื่อนอกเผยเหตุไม่สงบชายแดนใต้ลดความรุนแรงลง/

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานโดยอ้างสถิติของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) ซึ่งระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบในจังหวัดทางภาคใต้ของไทย แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นเมื่อ 13 ปีก่อน และสถานการณ์ด้านความมั่นคงดีขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐบาลทหาร

โดยเหตุความสงบในพื้นที่ชายแดนทางใต้ตั้งแต่ปี 2547 มาจนถึงปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 7,000 คนในปี 2559 มีผู้เสียชีวิต 309 ราย และในปี 2560 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 235 ราย ทั้งเป็นการลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 จากที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือในปี 2550 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากถึง 892 ราย เอเอฟพีระบุด้วยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ยึดอำนาจในปี 2557 พยายามเดินหน้าเจรจาสันติภาพ แต่มีความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อย และมีการทำความตกลงเกี่ยวกับพื้นที่ปลอดภัยด้วย โดยความสูญเสียที่ลดลงอาจเชื่อมโยงกับการเจรจา และโครงการพัฒนาพื้นที่ของรัฐบาล

นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ 116.83 ขยายตัวร้อยละ 4.23 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งสัญญาณการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้ดัชนี MPI 11 เดือนของปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 1.52 โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวก ได้แก่ รถยนต์ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ น้ำมันพืช และน้ำมันปิโตรเลียม

บริษัทแอร์บัสกำลังร่างแผนความเป็นไปได้ที่จะค่อยๆยุติผลิตเครื่องบินโดยสารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก "ซูเปอร์จัมโบA380" หากไม่ได้รับคำสั่งซื้อจากสายการบินเอมิเรตส์ ทั้งที่ซูเปอร์จัมโบA380 เพิ่งให้บริการได้เพียง 10 ปี และการยุติการผลิตจะทำให้แอร์บัสสามารถประกอบเครื่องบินเพื่อส่งมอบตามคำสั่งซื้อที่มีอยู่ในปัจจุบัน

สำหรับแอร์บัส A380 มีต้นทุนการพัฒนา 11,000 ล้านยูโร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 500 คนเพื่อท้าทายโบอิ้ง747 แต่สายการบินต่างๆ มีความสนใจเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่า และสะดวกต่อการหาผู้โดยสารและมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า

ส่วนที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เป็นประธานประชุมคณะทำงานเกี่ยวกับการดำเนินคดีผู้ร่วมขบวนการช่วยรื้อคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร เพื่อสรุปสำนวน พยานหลักฐาน ส่งอัยการพิจารณาฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนม จำนวน 9 ราย จากผู้ต้องหา 11 ราย โดยมื่อวันที่ 22 ธันวาคม สรุปสำนวนส่งอัยการไปแล้ว 2 ราย คือ นายสับ วาปี และภรรยา คือ นางจัน วาปี ส่วนอีก 9 ราย คือ 1. นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร 2. นายสุริยา นวลเจริญ ทั้ง 2 ราย ถูกควบคุมตัวชั่วคราว 3 นายนิรันดร์ แสนเมือง สามีครูจอมทรัพย์ 4. นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ พยาน 5. นางทองเรศ วงศ์ศรีชา พยาน 6. นางสาววาสนา เพชรทอง 7. นายรจนา จันทรัตน์ 8. นายเสน่ห์ สุพรรณ์  9 นายธณัช สุขตลอดปี

และคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายองอาจ ธรรมนิทา อายุ 35 ปี อดีตโฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีใดอื่นมิใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อแสดงความเห็น ติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดก่อความไม่สงบหรือล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 กรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 นายองอาจแถลงข่าวด้วยวาจาเผยแพร่แถลงการณ์และนำเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก ที่มีเนื้อหาที่จะทำให้ผู้ที่เห็นข้อความเข้าใจว่าพนักงานของรัฐกระทำการรุนแรงไม่ชอบด้วยกฎหมาย กลั่นแกล้งดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ และในชั้นศาลจำเลย แถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี และจัดเตรียมทนายความไว้แก้ต่างคดีแล้ว ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 13.30 น.

...