บีบีซี รายงานอ้างนายซิกมาร์ กาเบรียล รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีว่า ข้อตกลงเรื่องการถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ของสหราชอาณาจักรหรือเบร็กซิต อาจจะใช้เป็นต้นแบบของความสัมพันธ์ระหว่างอียูกับกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกอียูเช่นตุรกีและยูเครน สองประเทศนี้อาจจะได้ประโยชน์จากการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มอียูในลักษณะเช่นเดียวกับข้อตกลงเบร็กซิตที่จะใช้บังคับในอนาคต
เขากล่าวว่า ในปัจจุบันเขายังมองไม่เห็นว่า 2 ประเทศนี้จะผ่านเกณฑ์ที่จะได้รับการโหวตให้ร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มอียูได้ในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะตุรกี ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ยังมีปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน สำหรับกรณียูเครน เขาตั้งข้อสังเกตว่าข้อตกลงระหว่างยูเครนกับกลุ่มอียูในปัจจุบัน กระทบความสัมพันธ์ทางการเมืองและการค้าระหว่างอียูกับยูเครนให้แน่นแฟ้นมากขึ้น สำหรับเรื่องรูปแบบความสัมพันธ์กับกลุ่มอียูในอนาคตระหว่างอียูกับสหราชอาณาจักร ภายใต้ข้อตกลงเบร็กซิตขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาระหว่างผู้แทนเจรจาจากทั้งสองฝ่าย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 29 มีนาคม 2562
โดยทั้งสองฝ่าย สามารถตกลงกันใน 3 เรื่องหลักๆในเดือนนี้คือ เรื่องค่าถอนตัวออกจากกลุ่มที่สหราชอาณาจักรจะต้องจ่ายให้กับอียู เรื่องชายแดนของไอร์แลนด์เหนือและเรื่องสิทธิ์พลเมืองสหราชอาณาจักรที่อยู่ในกลุ่มอียูและพลเมืองอียูที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร ก่อนหน้านี้ สหราชอาณาจักรลงประชามติเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว สนับสนุนให้มีการถอนตัวออกจากอียูหลังการเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียูมากว่า 40 ปี
ทีมต่างประเทศ
CR:www.rte.ie