สนช.ยกระดับการกู้ชีพ ลดความสูญเสีย เพิ่มอาสาสมัครกู้ชีพฉุกเฉิน

การดำเนินการกู้ชีพฉุกเฉินช่วงเทศกาลปีใหม่ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการประสานงานกรณีกู้ชีพฉุกเฉิน สนช.เปิดเผยผลการดำเนินการที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเรื่องการสร้างจิตสำนึกในการให้ทางรถพยาบาล และการแก้กฎกระทรวงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ออกตามพระราชบัญญัติการจราจรทางบก เพื่อให้ทางกับรถพยาบาล ทั้งนี้ ตั้งแต่เทศกาลปีใหม่เ ป็นต้นไป คณะกรรมการฯวางหลักการทำงานที่สำคัญคือ มาตรการรับมืออุบัติเหตุ โดยการเตรียมความพร้อมทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ และพื้นที่สาธารณะรองรับการเจ็บป่วยฉุกเฉิน เช่น การติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าใน 4 สนามบินหลัก  10 สถานีรถไฟฟ้า และสถานีขนส่งมวลชน ซึ่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินประกาศให้เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าเป็นเครื่องปฐมพยาบาลตามกฎหมาย  และมาตรการเชิงรุก คือการร่วมมือกับรัฐบาล มูลนิธิเมาไม่ขับ และสื่อมวลชน รณรงค์เมาไม่ขับ และสร้างวินัยการจราจรเพื่อลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว 

ขณะที่ ประกาศคณะกรรมการแพทย์ฉุกเฉิน เรื่องหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ 2560 เพื่อยกระดับการปฐมพยาบาล และการกู้ภัย โดยการตรวจสอบ และขึ้นทะเบียนรถกู้ภัย กำหนดมาตรฐานอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินต้องได้รับการอบรมเป็นหน่วยปฏิบัติการ ทำให้ปัจจุบันมีอาสาสมัครที่ปฏิบัติการได้ตามประกาศไม่ถึงร้อยละ 10 ทั่วประเทศ ซึ่งมูลนิธิต่างๆหวั่นว่าอาจจะกระทบต่อการช่วยเหลือผู้ป่วย และผู้ประสบอุบัติเหตุ 

นายสุรชัย ชี้แจงว่าที่ผ่านมาเรามองข้ามเรื่องมาตรฐานการกู้ชีพ ปล่อยให้เอกชนเข้ามาทำตามความสมัครใจ ซึ่งไม่ได้มาตรฐาน และทำให้ประชาชน ขาดความมั่นใจในความปลอดภัยจากการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยผิดวิธี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องออกประกาศที่จะยกระดับการกู้ชีพ โดยรับที่จะนำเรื่องดังกล่าวไปสะท้อนต่อคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เพิ่มเจ้าหน้าที่อบรมอาสาสมัครทั่วประเทศให้ได้มาตรฐาน ภายในกรอบเวลาที่รวดเร็ว ไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงเปลี่ยนผ่านของการประกาศใช้กฎหมาย

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี