นครบาลใช้ 4 มาตรการดูแลจุดเสี่ยงช่วงปีใหม่ ขออย่าจุดพลุ-ประทัด มีโทษทั้งจำและปรับ

มาตรการป้องกันปรามปราบอาชญากรรมในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2561 พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ตำรวจนครบาล มีมาตรการดูแลประชาชน 4 มาตรการ คือ การระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ,การสนธิกำลังระหว่างทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เพื่อสอดส่องดูแลตรวจจุดล่อแหลมต่างๆ,การตรวจจุดที่คาดว่าจะมีการก่อเหตุ , การตั้งจุดตรวจเข้ม ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม2560-3 มกราคม 2561 โดยจะมีการนำเครื่องมือ PDC หรือ Politics data cater นวัตกรรมใหม่ในการตรวจสอบหมายจับทั่วประเทศ มาใช้ในจุดตรวจด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่และวันที่ 27 ธันวาคม 2560 เวลา 16.30 น. จะมีกิจกรรมเดินรณรงค์โครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน หรือ ฝากบ้านไว้กับตำรวจ  ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจและประชาชน ไม่ใช่เพียงแต่ตำรวจที่จะดูแลฝ่ายเดียว ประชาชนก็ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาด้วย

นอกจากนี้ จะนำแอพพลิเคชั่น POLICE i lert u มาใช้ ในการแจ้งเหตุต่างๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกและมีความรวดเร็วในการติดตามเหตุต่างๆ ทั้งนี้ คาดว่าพื้นที่สำคัญในกรุงเทพมหานคร เช่น ตรอกข้าวสาร CDC เอเชียทีค และ เซ็นทรัลเวิลด์ แต่ละแห่งจะมีประชาชนไม่ต่ำกว่า100,000คน ร่วมกันเฉลิมฉลอง รวมถึงบริเวณที่มีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี จำนวน143 แห่งทั่วกรุงเทพมหานคร คาดว่าแต่ละแห่งจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 51,000คน  เบื้องต้น ตำรวจนครบาล ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยดูแลเรียบร้อย

พลตำรวจตรีภาณุรัตน์  เน้นย้ำเรื่องการจุดพลุที่มีขนาดใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ว่า จะต้องได้รับการอนุญาตก่อน ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ยอมรับว่า ยังคงกังวลว่าจะมีการแอบนำประทัด และ พลุขนาดเล็กเข้าไปจุดในสถานที่เที่ยวช่วงเคาท์ดาวน์ เพราะอาจเกิดเป็นประกายไฟและกระทบต่อความปลอดภัยได้ โดยในวันที่ 29 ธันวาคม เวลา 21.00น. จะลงพื้นที่บริเวณ RCA เพื่อขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้ช่วยสอดส่องดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วย

ผู้สื่อข่าว: ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ