ปชป.แจงคำสั่งม.44คสช.เป็นการล้มกระดาน เซ็ตซีโร่พรรคการเมือง

หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งมาตรา 44 ฉบับที่ 53/ 2560 เพื่อคลายเงื่อนระยะเวลาของพรรคการเมือง นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ต้องการให้ผู้มีอำนาจได้ทบทวนว่าในทางปฏิบัติแท้จริงพรรคการเมืองสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการให้สมาชิกมายืนยัน แสดงหลักฐานและชำระค่าสมาชิกพรรคภายใน 30 วันนับแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 ซึ่งหากไม่ดำเนินการให้ถือว่าพ้นสมาชิกพรรค โดยนายราเมศ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องยุ่งยาก และคำสั่งดังกล่าวคือการเซ็ตซีโร่พรรคการเมือง ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงสมาชิกแต่เป็นการล้มกระดานพรรคการเมือง  พร้อมระบุด้วยว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งที่น่าอับอายที่สุด เพราะที่ผ่านมา สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมมาตลอด แต่ขณะนี้กลับมีการออกฎหมายจำกัดสิทธิ์  นายราเมศ กล่าวด้วยว่าขอให้ผู้มีอำนาจ อย่าทำอะไรลับ ๆ มีอะไรในใจ ก็บอกประชาชนโดยตรงไม่ใช่การทำให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอ พร้อมถามกลับว่าต้องการอยู่ต่อหรือช่วยพรรคการเมืองใดหรือไม่ ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ไปร้องเรียนกับคสช. อีก  และเมื่อมีคำสั่งออกมาแล้วก็พร้อมปฏิบัติตาม และยืนยันไม่หวั่นไหว แม้มีผลกระทบบ้างแต่ดำเนินการให้ดีที่สุด  ส่วนกระแสตั้งพรรคทหาร นายราเมศ ระบุว่า หากมีการตั้งพรรคทหารก็ยินดี เพราะมีสิทธิ์ตั้งได้ แต่คสช. ต้องอย่าทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมหรือไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น

ด้านนายอรรถวิทย์  สุวรรณภักดี อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำถึงคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ว่าเป็นการเซ็ตซีโร่พรรคการเมืองและคสช.กำลังสร้างความยุ่งยากให้ประชาชนในการมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการเมืองใหม่ พร้อมทั้งกล่าวว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเรื่องพรรคการเมือง ระบุชัดแล้วว่า หากมีคนเป็นสมาขิกพรรคเกิน 2 พรรคให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ส่งเรื่องให้หัวหน้าพรรคยกเลิกได้  อีกทั้งหัวใจของการปฏิรูปพรรค คือ การทำไพรมารี่โหวต  โดยให้สมาชิกพรรคเลือกผู้ที่จะต้องสมัครเป็นตัวแทนพรรคซึ่งหากใช้คำสั่งมาตรา 53 จะกระทบเรื่องไพรมารี่โหวตโดยตรง

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี