เยอรมนี พบวัตถุต้องสงสัยในตลาดคริสต์มาส ทั่วโลกเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาล

ตำรวจเยอรมนี นำผู้เชี่ยวชาญและหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจค้นบรรจุภัณฑ์ต้องสงสัยบริเวณตลาดคริสต์มาส ในเมืองบอนน์ ทางตะวันตกของเยอรมนี หลังปิดล้อมพื้นที่และอพยพผู้คนออกจากบริเวณนี้ในช่วงก่อนเวลา 21.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 04.00 น. เช้านี้ตามเวลาประเทศไทย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่พบอันตรายจากบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งพบในช่วงใกล้เวลาปิดตลาด ดังนั้น จึงไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ทั้งนี้ เยอรมนี ยังคงเตือนภัยไว้ที่ระดับสูงมาเป็นเวลา 1 ปี หลังเกิดเหตุชายชาวตูนิเซียก่อเหตุจี้รถบรรทุกพุ่งชนผู้คนกลางตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน

วันเดียวกัน ตำรวจเดนมาร์กร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงและข่าวกรองของเดนมาร์ก สามารถจับกุมชาวซีเรีย วัย 30 ปี ซึ่งพยายามขอลี้ภัยในสวีเดน ในข้อหาพยายามก่อการร้ายในกรุงโคเปนเฮเกนร่วมกับพวกอีก 1 คน วัย 21 ปี เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่ชายคนหลังถูกตำรวจเยอรมนี จับกุมตัวได้ ทำให้แผนการก่อการร้ายโดยใช้มีดและลอบวางระเบิดล้มเหลว

ทั้งนี้ ศาลเยอรมนีเพิ่งตัดสินจำคุกชายวัย 21 ปี ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเช่นกัน ในข้อหาพยายามก่อการร้ายด้วยการลักลอบขนไม้ขีดไฟจำนวน 17,000 กล่อง มีดทำครัว 2 เล่ม และเครื่องรับส่งวิทยุมือถือ 6 เครื่อง ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวทั้งในเยอรมนีและเดนมาร์กเกิดขึ้นในขณะที่ ทั่วโลกเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย ซึ่งมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่และประเทศในตะวันออกกลาง อาทิ อียิปต์ ปากีสถาน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย หลังจากเกิดเหตุโจมตีโบสถ์ในปากีสถาน และกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศจะย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทลอาวีฟไปนครเยรูซาเล็ม ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ชาวมุสลิมทั่วโลกเป็นอย่างมาก

ทีมต่างประเทศ

CR:Reuters