ปปช.เชื่อพล.อ.ประวิตร รู้เวลาแจงทรัพย์สิน/รวบกิ๊กฆาตกรฆ่าหมอปอ/จ่านิว ไม่ไว้วางใจรัฐบาล

22 ธันวาคม 2560, 12:24น.


ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30 น.



+++วันเด็กปี2561พลเอกประยุทธ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ได้ให้คำขวัญประจำปี “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี” นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ปี2561 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ที่ 13 ม.ค. นายกรัฐมนตรีได้ฝากคำขวัญดังกล่าวเพื่อต้องการให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองว่า เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าของประเทศ ขอให้ตั้งใจใฝ่ศึกษาเล่าเรียน หมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งรู้จักการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม และเป็นคนดีของสังคม ตลอดจนเป็นผู้ที่มีความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ ครูอาจารย์ มีจิตสาธารณะ เพื่อการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างมีความสุข และพร้อมจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และคุณธรรมของประเทศชาติต่อไป



+++ความคืบหน้าในการตรวจสอบทรัพย์สินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณียังไม่มีการแจ้งนาฬิกาและแหวนเพชรในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นแสดงต่อ ป.ป.ช. พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า พล.อ.ประวิตรส่งหนังสือชี้แจงมาแล้วหรือไม่ เพราะสำนักตรวจสอบทรัพย์สินที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รายงาน แต่ก็มีกรอบเวลาอยู่แล้ว และการยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้นก็กำหนดให้ยื่นแค่ตอนเข้ารับตำแหน่ง และตอนพ้นตำแหน่ง ซึ่งในช่วงที่ยังดำรงตำแหน่งไม่ได้กำหนดให้ยื่นบัญชีทรัพย์สิน เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่มีการร้องเรียน ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบ ซึ่งก็คงไม่มีปัญหาเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้ว่าควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ไม่ต้องห่วง



+++นายภุชพงค์ โนดไธสง ผู้อำนวยการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ หรือ สสช.หน่วยงานภายใต้สังกัด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล ครบ 3 ปี ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ร้อยละ 50 ประชาชนมีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของรัฐบาลอยู่ในระดับ มาก-มากที่สุด และมีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานในภาพรวมของรัฐบาลอยู่ที่ 7.01 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน  โดยประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการควบคุมสินค้าอุปโภค บริโภคไม่ให้มีราคาแพง อย่างเร่งด่วน และให้ข้อคิดเห็นว่าควรมีการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศให้ดีกว่านี้เป็นอันดับแรก นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังได้ระบุถึงการรับชมรายการเดินหน้าประเทศไทย พบว่าประชาชนดูรายการเป็นประจำร้อยละ15.8 ดูเป็นบางครั้งร้อยละ 64 และไม่เคยดูเลยร้อยละ20.2 ส่วนเรื่องเงินออกมตั้งแต่ปี 2556 ถึงครึ่งปีแรกของปี 2560 ครัวเรือนไทยมีเงินออมลดลง จากปี 2556 ครัวเรือนไทยมีเงินออม 6,133  บาทต่อเดือน และลดลงเป็น 5,076 บาท ต่อเดือน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 คิดเป็นสัดส่วนเงินออมต่อรายได้ร้อยละ18.8  หรือถ้ามีรายได้ 100 บาท สามารถนำไปเก็บออมได้ประมาณ 19 บาท



+++นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิล พร้อมด้วยประชาชนจำนวนหนึ่ง ยืนอ่านจัดหมายเปิดผนึกถึง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาต (สนช.) เรื่อง "ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและลงมติถอดถอนรัฐบาล คสช.ทั้งคณะ" นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ดำเนินการภายใน 1 เดือน หากถึงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนม.ค.61 แล้ว สนช. ยังไม่ดำเนินการ กลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิล และประชาชนจะเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเองทั้งประเทศ จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม



++หลังจากที่ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหาหนักกับ นายรณชัย หรือเก่ง ปานชาติ อายุ 26 ปี และน.ส.นฤมล ช่วยสมบัติ อายุ 23 ปี กิ๊กสาว ฐานร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ครอบครองปืน และพกพาปืน ในคดีสังหาร น.ส.นนทิญา ครัวจัตุรัส อายุ 25 ปี เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข ล่าสุด พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้เรียกตัว น.ส.นฤมล มาสอบปากคำเพิ่มเติม น.ส.นฤมล ให้การกับตำรวจอ้างว่า สาบานเลยว่าไม่เคยคิดจะร่วมมือด้วยเลยตั้งแต่ต้น หลังจากที่นายเก่งบอกแผนการสังหารหมอปอ ตนก็ห้ามปรามไว้ตลอดว่าอย่าทำ ในคืนที่เกิดเหตุเขาอ้างแค่ว่าจะเข้าไปพูดคุยกับหมอปอเท่านั้น ว่าต้องการจะขอให้ยกเลิกการแต่งงาน รวมทั้งขอให้ขับรถไปส่งหน่อย ตนเชื่อในคำพูดจึงยอมขับรถไปส่งให้ จากนั้นก็วนรถมารอรับกลับ แต่พอเขาขึ้นรถมากลับบอกว่า เมื่อกี๊ยิงหมอปอไปแล้ว นำปืนไปทิ้งที่คลองท่าตะเภา รวมถึงชุดที่สวมใส่ตอนก่อเหตุด้วย ตอนนั้นไม่รู้จะทำเช่นไร มันลนลานไปหมด ได้แต่ทำตามเขาบอก พอตำรวจติดต่อมาก็เล่าเรื่องราวให้ฟังและให้ความร่วมมือทุกอย่างแบบเต็มที่



+++ความคืบหน้า เกี่ยวกับการดำเนินคดี ของคณะทำงานดำเนินคดีเอาผิดขบวนการ รับจ้างทำผิดแทน ปั้นพยานเท็จ ช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ โดยทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้สรุปผลการดำเนินคดี กับบุคคลเกี่ยวข้อง มีการออกหมายเรียกไปทั้งหมด 13 ราย ดำเนินคดีรวมทั้งหมด 11 ราย  โดยตำรวจ จะได้สรุปสำนวน คำให้การของ นายสับ วาปี พร้อม นางจัน วาปี ภรรยา รวม 2 ราย ส่งฟ้องให้อัยการจังหวัดนครพนม ตามขั้นตอน เพื่อพิจารณาส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม ต่อไป ตามระยะเวลาที่กำหนด ที่เหลืออีก 9 ราย อยู่ระหว่างการเร่งสรุปสำนวน คำให้การ ส่งอัยการภายหลัง ซึ่งในส่วนของคณะทำงานตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ถือว่าได้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการครบถ้วน ไม่มีออกหมายเรียกเพิ่มเติม



+++ส่วนผลการสอบสวนเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ดีเอสไอ จะต้องรอผลการสรุปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับกระทรวงยุติธรรม โดยตำรวจ ได้ แจ้งข้อหาหลัก ฐานความผิด จำนวน 3 ข้อหา ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานเท็จ เบิกความเท็จ และซ่องโจร มีเพียง นายธณัช สุขตลอดปี เป็นทนายความส่วนตัว ที่ถูกแจ้งข้อหารวม 4 ข้อหา มี แจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ร่วมแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จ และซ่องโจร มีอัตราโทษ รวมสูงสุดมากกว่า 10 ปี ในส่วนของ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร และ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง อยู่ระหว่างการควบคุมตัว ฝากขังที่เรือนจำกลางนครพนม เป็นผลัดที่ 2 เนื่องจากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ที่เหลือ 9 ราย อยู่ระหว่างการประกันตัว ปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งคดีนี้มีกำหนดฝากขังทั้งหมด 4 ผลัด ผลัดละ 12 วัน



+++ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการแพทย์เมื่อนางทีนา กิบสัน วัย 26 ปี อาศัยที่รัฐเทนเนสซี ของสหรัฐ คลอดลูกสาวตัวน้อยที่ชื่อเอ็มมา เร็น กิบสัน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน โดยทารกน้อยเกิดจากตัวอ่อนที่ได้รับบริจากจากสามีภรรยาชาวอเมริกันคู่หนึ่งซึ่งถูกนำไปแช่แข็งไว้ นาน 24 ปี โดยตัวอ่อนที่ว่านี้ได้รับบริจากและถูกปฏิสนธิเมื่อปี 1992 ขณะที่ตอนนั้นนางกิ๊บสันเองเพิ่งเกิดเมื่อปี 1991 นางกิบสัน กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า "คุณรู้ไหม ฉันอายุแค่ 25 ปีเอง ตัวอ่อนนี้กับฉันอาจจะเคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อนก็ได้" "ฉันแค่อยากจะมีลูก ฉันไม่สนว่าจะทำสถิติโลกหรือเปล่า" 

ข่าวทั้งหมด

X