กทม.ใช้6มาตรการดูแลความปลอดภัยปีใหม่2561 เน้นความเร็ว30กม./ชม.ในพื้นที่ชุมชน

21 ธันวาคม 2560, 15:14น.


การป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ภายใต้แนวคิด"ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร"  พลตำรวจโทชินทัต มีศุข รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ถนนเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครก็มีการจราจรลดน้อยลง ทำให้ผู้ใช้รถมักขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ  โดยสถิติปี2560พบว่าเกิดอุบัติเหตุจำนวน 30 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 31 ราย เสียชีวิต 9 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุการตัดหน้ากระชั้นชิด การขับรถเร็วเกินกำหนดและการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรและเครื่องหมายจราจร และสิ่งที่สำคัญประชาชนยังขาดวินัยจราจร ซึ่งยานพาหนะที่เกิดเหตุมากที่สุดคือ รถจักรยานยนต์ ดังนั้นปีนี้กรุงเทพมหานครกำหนด6มาตรการขึ้นมา ประกอบด้วย ด้านคน จะให้ความรู้เรื่องการเกิดอุบัติเหตุ ,ด้านถนน จะปรับปรุงพื้นผิวจรา ทางโค้ง ทัศวิศัยไม่ดี ให้ดีขึ้น ,ด้านความปลอดภัยทางน้ำ ประสานกรมเจ้าท่า ตรวจเรือและโป๊ะให้มีความมั่นคง ,ด้านการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ,ด้านมาตรการช่วยเหลือหลังเกิดเหตุ ได้เตรียมแพทย์ มูลนิธิหรือภาคเอกชน เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งนี้ในช่วง7วันอันตราย จะมีจุดให้บริการประชาชน เช่น เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ หน่วยทางการแพทย์ ที่คอยอยู่ประจำจุดตามเส้นทางเข้าออกกรุงเทพมหานครใน4มุมเมือง 6สำนักงานเขต ได้แก่ เขตบางนา เขตบางขุนเทียน เขตทวีวัฒนา เขตหนองจาก เขตดอนเมือง เขตหนองแขม





นอกจากนี้กรุงเทพมหานครรณรงค์ขับขี่ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับถนนซอยในเขตชุมชนที่มีความกว้างของผิวจราจรไม่เกิน7เมตร และไม่มีไหลทาง พร้อมติดตั้งป้ายจำกัดความเร็ว จัดเส้นชะลอความเร็วและคันชะลอความเร็วให้ได้มาตรฐาน เพราะเมื่อเกิดเหตุจะช่วยลดความรุนแรงได้ และกรุงเทพมหานครยังจัดตั้งศูนย์ประสานการปฎิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ทำหน้าที่ตรวจสอบทำความสะอาด แก้ไขและจัดซ่อมเครื่องหมายจราจร ตรวจกล้องCCTVให้พร้อมใช้งาน ป้ายเตือนระวังเหตุบริเวณจุดเสี่ยง และตรวจความเรียบร้อยของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีรถไฟฟ้าด่วนพิเศษBRT ท่าเทียบเรือและป้ายหยุดรถโดยสารสาธารณะ โดยจัดเจ้าหน้าปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่28ธันวาคม 2560-3 มกราคม 2561



ด้านนายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน กล่าวถึงมาตรการการขับขี่ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ว่า ผู้ถูกชนจะมีโอกาสรอดได้มากกว่าร้อยละ90 เพราะแรงกระแทกในความเร็วนี้จะช่วยลดความสูญเสียลง3-4เท่า หากเทียบกับการขับขี่รถด้วยความเร็ว60กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่มีแรงกระแทกเทียบกับคนตกตึก5ชั้น





ด้านพลตำรวจตรีจิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จึงมีมาตราการดูแล โดยเน้นกวดขันวินัยจราจรและการบังคับใช้กฎหมาย  ซึ่งจะตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตรวจจับความเร็วทั่วกรุงเทพมหานคร รวมถึงมีการรณรงค์สวมหมวกกันน็อค100% หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ใดไม่สวมหมวกกันน็อค จะมีบริการให้ยืมที่สถานีตำรวจนครบาลทั่วกรุงเทพมหานคร

ข่าวทั้งหมด

X