ปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาล/คืบหน้าคดีฉ้อโกงธนาคารกรุงไทย

ศาลปกครอง ในวันนี้ ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษา ในคดีบริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด กับพวกรวม 4 คน ฟ้องคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่าออกกฎโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้เพิกถอนประกาศเรื่องหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับฉลากของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2558

ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติชี้ขาด กรณีร่างบันทึกความเข้าใจข้อตกลงศุลกากร ไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการผ่านแดนสินค้า ระหว่างกรมศุลกากรแห่งราชอาณาจักรไทย และกรมศุลกากร และสรรพสามิต แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐสภาจะต้องลงมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ด้วยหรือไม่

ใกล้เทศกาลคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่ เวลา 18.00 น.วันนี้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น  ผบช.สตม. จะเป็นประธานปล่อยแถวรณรงค์ ป้องกันกวาดล้างอาชญากรรม ในช่วงเทศกาล ที่ถนนข้าวสาร เขตพระนคร และจะมีการแถลงข่าวบริเวณหน้า สน.ชนะสงคราม

ในช่วงเช้าวันนี้ หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย จะยื่นหนังสือขอให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน เรื่องหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ พ.ศ.2560 ที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ภายในกระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี โดยอาสากู้ชีพมีความคิดเห็นว่า ประกาศฉบับนี้มีการควบคุมอาสามูลนิธิต่างๆ มากจนเกินไป และจะส่งผลต่อการปฏิบัติงานภาคสนาม อาทิการกำหนดให้อาสามูลนิธิต้องผ่านการอบรมอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ (อฉพ.) และคนขับรถต้องผ่านการอบรม นอกจากนี้ยังเป็นประกาศที่ออกโดยไม่ผ่านการหารือจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

พท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ผู้แทนเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ พร้อมคณะ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบ และส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีการผ่านพรบ.ปิโตรเลี่ยม (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ.2560, พรบ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2560 และการบริหารจัดการปิโตรเลียมตามกฎหมายปิโตรเลียมเดิมทั้ง 7 ฉบับ ที่อาจยังคงมีช่องว่างให้เกิดการทุจริต และส่งผลให้รัฐเสียประโยชน์ 

นายทศพล แก้วทิม แกนนำ กคป. พามารดาของผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้งล่วงหน้าไปยื่นหนังสือต่อ อธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าจาก จนท.ตร. โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่หน่วยเลือกตั้งเขตบางนา บริเวณวัดศรีเอี่ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2557

เวลา 14.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม 2 นายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรับรื้อฟื้นคดีอาญาฯ จะแถลงสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงการรื้อฟื้นคดีอาญาให้กับนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร

คดีนี้ยังมีความคืบหน้าจากฝ่ายสอบสวนซึ่งพล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผบช.ภ.4 ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดี เปิดเผยว่า การสอบปากคำพยานคดีทั้งหมด 14 ปาก แยกเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม 13 ราย และพลเรือน 1 รายเสร็จสิ้นแล้ว ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากนั้นจะมีการประชุมสรุปสำนวนคดีให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้

ยังต้องติดตาม กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายพนม ศรศิลป์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นางสาวประนอม คงพิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน และนางชมพูนุท จันฤาไชย บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันทุจริตงบประมาณโครงการเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัดที่อนุมัติให้แก่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ตำบลกระมัง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประจำปีงบประมาณ 2557 และประจำปีงบประมาณ 2558 จึงให้ส่งรายงานและเอกสารพร้อมทั้งความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542

ส่วนการติดตามขบวนการฉ้อโกงธนาคารกรุงไทยสร้างความเสียหายมากกว่า 1 หมื่น 2 พันล้านบาท ตามที่นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ได้ยื่นร้องเรียนต่อดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ที่ปลอมแปลงเอกสารนำเข้าถ่านหินจากประเทศอินโดนีเซียมาใช้เป็นหลักฐานในการกู้เงินจากธนาคาร และดีเอสไอมีการประชุมเพื่อเปิดคดีนัดแรกไปเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม และ ป.ป.ช.พร้อมที่จะรับการตรวจสอบต่อในกรณีที่มีพนักงานและผู้บริหารของธนาคารกรุงไทยเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการปล่อยกู้ครั้งนี้ ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีการตรวจสอบบัญชี และเส้นทางการเงินของ EARTH หากพบว่ามีการนำเงินกู้จากธนาคารกรุงไทยไปใช้ในนามส่วนตัว ก็จะเข้าองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ในฐานะยักยอกเงินบริษัทและทำบัญชีการเงินเป็นเท็จ ซึ่งถือเป็นฐานความผิดที่ร้ายแรง โทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยได้รายงานให้ ธปท.รับทราบแล้ว และเชื่อว่ากรณีนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคาร เพราะมีการตั้งสำรองหนี้เสียในการปล่อยสินเชื่อครั้งนี้เต็มจำนวนแล้ว และกรุงไทยก็มีเงินกองทุนที่มีความแข็งแกร่งเพียงพอในการใช้ตั้งสำรอง

...