รถไฟแอมแทรกตกรางที่วอชิงตัน/สนามบินที่แอตแลนตา มีไฟใช้แล้ว/บุกค้นบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นฮั้วประมูลโครงการรถไฟแม็กเลฟ

+++เกิดเหตุรถไฟโดยสารสายด่วนแอมแทรกของสหรัฐฯ  ตกรางบนสะพานข้ามถนนในเขตรัฐวอชิงตัน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ขณะที่กำลังวิ่งให้บริการเที่ยวปฐมฤกษ์บนเส้นทางใหม่ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองทาโคมา ประเทศสหรัฐฯ ว่า แถลงการณ์ของบริษัทแอมแทรก ระบุว่า มีผู้โดยสาร 78 คน และพนักงานประจำรถ 5 คน อยู่บนขบวนรถไฟ 501 ขณะเกิดอุบัติเหตุขบวนรถตกราง เมื่อวิ่งผ่านสะพานข้ามถนนทางหลวงสายระหว่างรัฐ อินเตอร์สเตท 5 ในเขตปกครองเพียร์ซ เคาน์ตี รัฐวอชิงตัน รถไฟโดยสารเที่ยวนี้เป็นเที่ยวแรก ของการขยายบริการรถไฟความเร็วสูงกว่าเดิม เชื่อมต่อเมืองซีแอตเติลในรัฐวอชิงตัน กับเมืองพอร์ตแลนด์รัฐออริกอน

+++นายเอ็ด ทรอยเออร์ โฆษกสำนักงานเพียร์ซ เคาน์ตี ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน แต่ยังไม่สามารถระบุตัวเลขแน่ชัดได้ แต่สื่อท้องถิ่นสำนักหนึ่งรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 ศพ ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลหลายสิบคน โชคดีประชาชนที่กำลังขับขี่รถยนต์สัญจรผ่านบนถนนด้านล่างไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย

+++ส่วนที่สนามบิน ฮาร์ทส์ฟิลด์ แจ๊คสัน ในนครแอตแลนตา ของสหรัฐฯ มีไฟฟ้าใช้เหมือนเดิมแล้ว หลังไฟดับ นานร่วม 11 ชม. ต้องยกเลิกเที่ยวบิน กว่า 1,000 เที่ยว  สนามบินที่ได้ชื่อว่าพลุกพล่านมากที่สุดในโลก มีไฟฟ้ากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ก่อนหน้านั้นสายการบินเดลตาแอร์ไลน์ ต้องยกเลิกเที่ยวบิน ไปราว 900 เที่ยว และยกเลิกอีก 300 เที่ยว เช่นเดียวกับ สายการบินเซาท์เวสต์อเมริกัน แอร์ไลน์ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ที่ต้องยกเลิกเที่ยวบิน และแจ้งผู้โดยสารว่า การเดินทางอาจขลุกขลัก สรุปแล้วเมื่อวานนี้ มีเที่ยวบินถูกยกเลิกถึง 1,170 เที่ยว เหตุไฟฟ้าดับตั้งแต่เวลา 13.00 น. วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หรือหลังเวลา01.00 น.วันจันทร์ตามเวลาในไทย ทำให้สำนักงานบริหารการบิน สหรัฐ หรือ FAA ต้องสั่งระงับเที่ยวบิน ขาเข้าแอตแลนต้า

+++จอร์เจีย พาวเวอร์ ผู้ดูแลไฟฟ้าในสนามบินแห่งนี้ แจ้งว่า สาเหตุไฟดับเกิดจากไฟไหม้ชั้นใต้ดินของสถานีส่งไฟฟ้าย่อย สันนิษฐานว่า ต้นเพลิงเกิดจากเฟืองบกพร่อง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบจ่ายไฟสำรองได้ แต่สนามบินจัดหาอาหารให้ผู้โดยสารตกค้างกว่า 5,000ชุด ปกติมีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินแห่งนี้ ถึงวันละ 2 แสน 75,000 คน

+++กลายเป็นข่าวใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า เจ้าหน้าที่พบร่างของ คิม จงฮยอน วัย 27 ปี นักร้องนำของวงบอยแบนด์ชายนี่ (SHINee) เสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักย่านชองดัมดง สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์ รายงานความคืบหน้าว่าตำรวจ พบจงฮยอน ในสภาพหมดสติ ภายในห้องพักแบบเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ในเขตกังนัมของกรุงโซล หลังจากเขาส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือไปหาพี่สาว บ่งชี้ถึงการฆ่าตัวตาย ข้อความที่จงฮยอนส่งถึงพี่สาวเขียนว่า นี่เป็นการอำลาครั้งสุดท้ายของผม หลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมาช่างยากลำบากเหลือเกิน และ ปล่อยผมไปเถอะ และบอกว่าที่ผ่านมาผมทำดีแล้ว ทำให้พี่สาวต้องรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่จงฮยอนถูกประกาศว่าเสียชีวิต หลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในสภาพหัวใจหยุดเต้น ขณะที่ ตำรวจและรถพยาบาลฉุกเฉินไปถึงห้องพัก พบก้อนถ่านหินกำลังถูกเผาไหม้บนกระทะภายในห้อง ใกล้กับร่างหมดสติของจงฮยอน ก้อนถ่านหินเผาไหม้ ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง กำลังอยู่ในขั้นสืบสวน และยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ทางค่าย SM Entertainment ยังไม่มีการออกแถลงการณ์ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ 

+++สำหรับจงฮยอน สมาชิกวงชายนี่ ภายใต้สังกัด เอสเอ็มเอ็นเตอร์เทนเมนท์  เปิดตัวด้วยเพลง Replay เมื่อปี ค.ศ. 2008 สำหรับในประเทศไทย ชายนี่เป็นวงบอยแบนด์เกาหลีใต้แนวหน้า ที่ได้รับความนิยมในเพลง Ring Ding Dong ซึ่งเป็นช่วงกระแสเกาหลีฟีเวอร์ในไทยอยู่ช่วงหนึ่ง

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงคนหนึ่งของเลบานอนว่า ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำคนขับแท็กซี่คนหนึ่งหลังถูกจับกุมฐานต้องสงสัยฆ่าน.ส.เรเปกกา ไดเคส พนักงานประจำสถานทูตอังกฤษประจำเลบานอนเมื่อคืนวันศุกร์ก่อน พนักงานสอบสวนระบุว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ขับแท็กซี่ไปรับน.ส.ไดเคสจากบาร์ชื่อวาเดโม บริเวณถนนเกมเมย์เซห์ ย่านท่องราตรีชื่อดังใจกลางกรุงเบรุต ก่อนจะขับแท็กซี่พาเธอมุ่งหน้ายังทางด่วนเชิงเขาเส้นหนึ่งแล้วลงมือข่มขืนก่อนใช้เชือกรัดคอเธอเสียชีวิต ต่อมามีคนไปพบศพของเธอในหลุมแห่งหนึ่งข้างทางด่วนใกล้ภูเขาลูกหนึ่งชานกรุงเบรุตเมื่อเช้าวันเสาร์ จุดเกิดเหตุเป็นป่าละเมาะ เป็นที่เปลี่ยว ห่างจากหมู่บ้านในละแวกนั้นและเป็นจุดที่ไม่มีไฟสว่าง ผลตรวจสอบทางดีเอ็นเอบ่งชี้ว่า ของเหลวในร่างกายของผู้ต้องสงสัยรายนี้ตรงกับดีเอ็นเอที่ตรวจพบในร่างของผู้เสียชีวิต

+++ด้านนายฮูโก ชอร์เตอร์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเลบานอน ทวีตข้อความว่าทุกคนในสถานทูตต่างรู้สึกตกใจและเศร้าใจเมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของเธอ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อครอบครัว เพื่อนๆและเพื่อนร่วมงานของเธอ ระบุว่าสถานทูตอังกฤษจะให้การช่วยเหลือเกี่ยวกับงานด้านกงสุลและเอกสารทางกฏหมายให้กับครอบครัวของเธอและจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพนักงานสอบสวนของเลบานอนเพื่อช่วยคลี่คลายคดีต่อไป

+++น.ท.ดาริน คลาร์ก จากหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯที่ประจำอยู่บนเกาะโอกินาวา ได้ไปขอโทษครูใหญ่ของโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองกิโนวัง หลังเกิดเหตุหน้าต่างหนัก 8 กิโลกรัม ของเฮลิคอปเตอร์รุ่นซีเอช-53 ลำหนึ่งของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯหลุดหล่นยังบริเวณสนามหญ้าของโรงเรียนเมื่อวันพุธก่อน น.ท.คลาร์กได้ชี้แจงให้คณะผู้บริหารโรงเรียนทราบระหว่างการพบปะราว 40 นาทีเมื่อเช้าวันนี้ว่า หน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯจะตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ฝึกบินของกำลังพลให้เข้มงวดมากขึ้นและจะทำการบินในระยะห่างจากโรงเรียนให้มากขึ้น

+++ด้านครูใหญ่ของโรงเรียน กล่าวว่า การรับปากด้วยวาจาของน.ท.คลาร์กอย่างเพียงอาจจะไม่เพียงพอที่จะยืนยันเรื่องความปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียนในอนาคต เธอจึงร้องขอให้เขาทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรมาถึงโรงเรียน ยืนยันว่าเครื่องบินของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯจะไม่ทำการบินเหนือโรงเรียนนั้นอีกในอนาคต

+++เจ้าหน้าที่อัยการกรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น บุกตรวจค้นสำนักงาน 2 บริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ที่ต้องสงสัยสบคบคิดกันเพื่อให้ชนะการประมูล โครงการรถไฟแม็กเลฟ มูลค่ามหาศาลของญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นรถไฟโดยสารวิ่งด้วยความเร็วถึง 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม็กเลฟ รถไฟโดยสารที่ใช้ระบบแรงยกตัวของแม่เหล็กไฟฟ้า กำหนดจะเริ่มวิ่งให้บริการเชิงพาณิชย์ ระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองนาโงยา ทางภาคกลางของญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2570 และจะขยายเส้นทางต่อไปยังโอซาก้า เมืองศูนย์กลางของภาคตะวันตกในภายหลัง   โครงการขนาดยักษ์ มูลค่าตามประเมินราว 9 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2 ล้าน 589,200 ล้านบาท) มีหลายบริษัทเข้าแข่งขันประมูลเพื่อคว้าสัญญา ตั้งแต่งานขุดอุโมงค์ไปจนถึงก่อสร้างสถานี

+++บริษัทคาจิมะ ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่การสอบสวนกำลังดำเนินอยู่ ยืนยันว่าบริษัทจะให้ความร่วมมือกับการสอบสวนอย่างเต็มที่ เจ้าหน้าที่อัยการ บุกตรวจค้น 4 บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัทคาจิมะ บริษัทชิมิสึ บริษัทไตไซ และบริษัทโอบายาชิ ตามข้อกล่าวหาสมรู้ร่วมคิด โดยเจ้าหน้าที่จาก 4 บริษัทนี้นัดพบปะหารือกันเป็นประจำ เพื่อฮั้วการประมูล

การประมูล 22 รายการล่าสุดที่เกี่ยวพันกับโครงการรถไฟแม็กเลฟในญี่ปุ่น ผู้ชนะคว้าประมูล 15 รายการเป็นบริษัทร่วมทุนที่ 4 บริษัทดังกล่าวแยกกันก่อตั้ง และทั้ง 4 บริษัทชนะประมูลเกือบเท่ากัน รถไฟแม็กเลฟทำสถิติใหม่ความเร็วสูงสุดในโลก ในระหว่างการวิ่งทดสอบใกล้ภูเขาไฟฟูจิเมื่อปี 2558 โดยวิ่งด้วยความเร็วถึง 603 กม./ชม

+++บีบีซี รายงานอ้างตำรวจอินเดียว่ามีคนเสียชีวิต 12 ศพหลังเกิดเหตุไฟไหม้ร้านทำขนมแห่งหนึ่งในเมืองมุมไบทางภาคตะวันตกของอินเดีย ทั้ง 12 คนได้รับความช่วยเหลือออกจากจุดเกิดเหตุ แต่เสียชีวิตขณะถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาล ไฟเริ่มลุกไหม้ที่ชั้นแรกของอาคาร ซึ่งเป็นทั้งที่ทำงานและที่พักอาศัยของคนงาน ทำให้คนงานหลายคนติดค้างอยู่ในอาคาร และหลังคาของอาคารถล่มลงมาในเวลาต่อมา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุ อยู่ระหว่างการสอบสวน คาดว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากการที่สถานประกอบการนั้นปล่อยปละละเลย ไม่ทำการซ่อมบำรุงระบบไฟให้อยู่ในสภาพที่ดีและไม่มีมาตรการเพื่อความปลอดภัยอย่างดีพอ

CR:AP,USA Today