นายเซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เขาจะไม่รู้สึกประหลาดใจ หากในวันหนึ่งศาลจะมีคำพิพากษาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อชาวโรงฮิงญาในรัฐยะไข่ของเมียนมา คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เนื่องจากเป็นการกระทำที่มีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี จนเหมือนกับการปฏิบัติตามคู่มือว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จึงเรียกร้องให้นางอองซาน ซูจี ผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมาทำงานมากขึ้นเพื่อหยุดปฏิบัติการทางทหาร
อย่างไรก็ตาม ทางการเมียนมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รวมถึงปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสหประชาชาติ ว่าเป็นปฏิบัติการเพื่อประโยชน์ทางการเมืองและเป็นความลำเอียง ทั้งยืนยันเช่นเดิมว่า เป็นการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย
ปัจจุบันมีชาวโรฮิงญาเกือบ 870,000 คนที่หลบหนีไปบังกลาเทศ โดย 660,000 คนในกลุ่มนี้เดินทางไปในช่วงหลังจากวันที่ 25 สิงหาคม เมื่อกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาโจมตีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเมียนมา
...
F163