*ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คุมเข้มตรวจจุดคัดกรองเชื้อไวรัสอีโบลา ที่สุวรรณภูมิ*

การสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการตรวจสอบและควบคุมไวรัสอีโบลาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทย  ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มมาตราการในการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้าประเทศ  มีการตั้งจุดตรวจผู้โดยสารขาเข้าประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม ยังไม่พบผู้ที่ติดเชื้ออีโบลาผ่านเข้ามาที่ประเทศไทย มาตรการตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย แบ่งเป็น 3ประเภท ได้แก่ ผู้โดยสารทั่วไป ผู้โดยสารที่มาต่อเครื่องที่ประเทศไทย และผู้โดยสารที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงใน 4ประเทศ คือ ประเทศ กินี  เชียร์ล่าลีโอน  ไลบีเลีย และไนจีเรีย โดยผู้โดยสารทุกประเภทจะต้องกรอกเอกสาร แบบฟอร์มประวัติสุขภาพ หรือใบ(ต.8)  และ ข้อมูลในการเดินทาง เช่น ที่พัก เบอร์ติดต่อ เพื่อเป็นการทำประวัติ ส่วนผู้โดยสารที่อยู่ในประเทศกลุ่มเสี่ยง ก็จะต้องผ่านเครื่องตรวจเทอร์โมสแกน หรือ เครื่องวัดไข้อัตโนมัติ ซึ่งเครื่องนี้จะส่งสัญญาณดังขึ้นเมื่อพบผู้ที่มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ก่อนถูกนำไปตรวจวัดไข้อีกครั้งด้วยเครื่อง เอียร์เทอร์โมมิเตอร์ หรือเครื่องวัดความร้อนทางหู ซึ่งหากยังพบว่าอุณหภูมิเกินก็จะถูกนำตัวออกไปทางลิฟท์เฉพาะ และนำไปขึ้นรถพยาบาลที่จอดรออยู่ชั้นล่างของอาคารเพื่อนำไปตรวจที่โรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบล่าในไทย ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลนพรัตน์ โรงพยาบาลเด็ก และสถาบันบำราศนราดูร ก่อนจะถูกตรวจสอบตามขั้นตอนอย่างละเอียดต่อไป จากการการลงพื้นที่สังเกตได้ว่า ขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบคัดกรองบุคคลมีความเข้มงวด

 วิรวินห์