กอร.รส.พร้อมรับปชช.ชมพระเมรุมาศ2สัปดาห์สุดท้าย/เสนอครม.ลดค่าครองชีพ ของขวัญปีใหม่/สนช.พิจารณากม.ลูกป.ป.ช.21ธ.ค.

+++การดูแลประชาชนจากทั่วสารทิศทยอยเดินทางมารอแถวเข้าชมนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พล.ต.ธานี ฉุยฉาย รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) เปิดเผยว่า กอร.รส.เตรียมความพร้อมรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาเป็นจำนวนมากในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้าย ภายในสัปดาห์นี้ มีสถานศึกษาติดต่อขอนำนักเรียน นักศึกษา เข้าชมทุกวัน วันละเกือบ 3 หมื่นคน เช่นเดียวกับกระทรวงการพัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะนำคนพิการทั่วประเทศมาเข้าชม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจความเรียบร้อยของสถานที่ทั้งระบบน้ำ สุขา ไฟฟ้า ซ่อมเเซมอาคารชำรุดทุกวัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่จะเดินทางมาชมซึ่งมีเเนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกวัน

+++พล.ต.ธานี กล่าวว่า เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศเเปรปรวน ทั้งหนาวในช่วงเช้าเเละเย็น กลางวันอากาศร้อน กอร.รส.จึงได้หารือกับทีมเเพทย์พยาบาล เพื่อเตรียมพร้อมดูเเลประชาชนที่อาจมีอาการเป็นลม หน้ามืดเเละท้องเสียได้ และจะมีเต็นท์เเพทย์คอยให้บริการ 4 จุดใหญ่รอบสนามหลวง ได้เเก่ เต็นท์หน่วยเเพทย์ 904 เต็นท์สนาม ทบ.จะเปิด 24 ชม. เต็นท์โรงพยาบาลตำรวจเเละเต็นท์ของกระทรวงสาธารณสุข

+++ สำหรับยอดรวมประชาชนที่เดินทางเข้าชมนิทรรศการฯจำนวน 45 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 16 ธันวาคม มีทั้งสิ้น 3 ล้าน 156,408 ราย

+++ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.30 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน  ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล หลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ มีแถลงผลการประชุม

+++พลอากาศเอกประจิน  จั่นตอง รองนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 2/2560

+++เวลา 13.30 น. นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทเลนอร์กรุ๊ป และคณะผู้บริหารระดับสูง หารือนายสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ห้องรับรองภายในสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

+++นายกฯ มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปจัดทำมาตรการและโครงการให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน มาเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ แต่ละหน่วยงานได้จัดทำมาตรการเตรียมเสนอ ครม.แล้ว โดยส่วนใหญ่เน้นไปที่มาตรการช่วยค่าครองชีพประชาชน รวมทั้งมาตรการให้เงินสดคืนเข้าบัญชีสำหรับลูกหนี้ชั้นดีของธนาคารรัฐที่ประกาศไปก่อนหน้านี้

+++นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะเน้นเรื่องการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยจะมีการจัดลดราคาสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (ออนไลน์ เมกะเซลส์) และที่ได้ดำเนินการไปล่าสุดคือการจัดงานมหกรรมลดราคาสินค้าทั่วประเทศภายใต้ชื่อ "รวมใจ..เพิ่มสุข..ช้อปสนุก..ลดรับปีใหม่" ด้วยการนำสินค้ากว่า 1 หมื่นรายการ ลดราคาสินค้าตั้งแต่ร้อยละ 20-80 ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 2560-4 ม.ค. 2561 หรือเป็นเวลา 22 วัน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน คาดว่าจะมีเงินสะพัดในโครงการดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท สามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้เฉลี่ยร้อยละ 30 หรือคิดเป็นเงินประมาณ 1.05 หมื่นล้านบาท

+++แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เตรียมจะเสนอ ครม.ให้ตรึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงเทศกาลปีใหม่ และตรึงค่าไฟฟ้าในช่วงต้นปี 2561 แม้ทิศทางราคาก๊าซจะปรับขึ้นตามกลไกตลาดโลกก็ตาม

+++ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม คาดว่า จะออกมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอีกระลอก แต่รายละเอียดต้องรอผลการพิจารณาของ ครม.

+++ขณะที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเสนอมาตรการแก้หนี้เกษตรกร 3.9 ล้านคน จากทะเบียนผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล 11.4 ล้านคน ลูกหนี้ ธ.ก.ส. 3.3 ล้านคน และลูกหนี้ระบบสหกรณ์ 6 แสนคน โดยการเสนอรวมหนี้ในและนอกระบบเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ทำการปรับโครงสร้างหนี้ และฟื้นฟูอาชีพให้เกษตรกร มีเป้าหมาย 3-5 ปี ล้างหนี้สินเฉลี่ย 2.5 หมื่น-3 แสนบาท/ราย

+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีอดีต ส.ส.ระบุว่ามีการตั้งพรรค วางตัวนายสมคิด เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯต่อ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังไม่เคยได้ยินพล.อ.ประยุทธ์ พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ และไม่เคยได้ยินใครในรัฐบาลพูดเรื่องนี้เช่นกัน จึงไม่ทราบรายละเอียด ส่วนที่มีกระแสการตั้งพรรคทหารเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์ หากใครอยากจะคิดอะไรก็ว่ากันไป

+++นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ... เปิดเผยว่า วันนี้  คณะกมธ.จะนัดประชุมเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเรียงเป็นรายมาตรา และจะได้ข้อสรุป เพื่อวันพรุ่งนี้ จะนำเข้าสู่คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) ให้บรรจุเป็นระเบียบวาระของที่ประชุมใหญ่ สนช. คิดว่าน่าจะเป็นวันที่ 21 ธ.ค.นี้

+++ทั้งนี้ มีหลายประเด็นที่กมธ.ต้องหาข้อสรุป เช่น การขอให้ศาลปกครอง แจ้งมายังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หากศาลปกครองรับคำร้อง เป็นต้น สำหรับประเด็นเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ส่วนตัวคิดว่าควรเปิดเผยแบบที่ผ่านมา แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเขียนไม่เหมือนรัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 ที่กำหนดให้แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบ ขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ให้เปิดเผยผลการตรวจสอบ ซึ่งเมื่อเขียนไม่เหมือนเดิมจึงต้องมาพิจารณาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญว่าเปิดเผยมากหรือน้องเพียงใด ทั้งนี้ เสียงส่วนใหญ่ใน กมธ.เห็นควรต้องเปิดเผยยกเว้นข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เลขที่บัญชีธนาคาร เลขที่บัตรเครดิต เป็นต้น รวมถึงเรื่องการเซตซีโร่ ป.ป.ช. ด้วย

แฟ้มภาพ