ส่งผลสอบการตายน้องเมยให้ผบ.สส.วันนี้ /ตูน วิ่งSet2กำแพงเพชรเงินบริจาคเกือบ800ลบ./ร้องถูกหวยรางวัลที่ 1แล้วสลากหาย

14 ธันวาคม 2560, 08:11น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.



+++การสอบสวนข้อเท็จจริง การเสีย ชีวิตของ ‘น้องเมย’ นักเรียนเตรียมทหาร พลอากาศเอกชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง การเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหาร ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย เปิดเผยว่า วันนี้ จะส่งผลการสอบสวน ให้ พลเอกธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ส่วนจะมีการแถลงผลสอบ หรือการเชิญผู้ปกครอง นักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ มาพูดคุย หรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการทหารสูงสุด



+++“ตูน บอดี้สแลม” และคณะวิ่งโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เริ่มวิ่งเซตแรก เวลา 03.20 น. จากปั๊มน้ำมันศรีนครคลองขลุง  ถึง อาคารเอนกประสงค์คลองสีนวล ม.7 จ.กำแพงเพชร ระยะทาง 22.5 กม. ขณะที่ยอดเงินบริจาค ณ เวลา 07.00 น. อยู่ที่ 792 ล้านบาท ล่าสุด วิ่งเซทที่ 2  อาคารเอนกประสงค์คลองสีนวย หมู่ 7-แขวงทางหลวงกำแพงเพชร ระยะทาง 16.2 กิโลเมตร



+++นายณัฐชาติ จารุจินดา” ประธานคณะกรรมการ ขสมก. สั่งการให้คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ไปเจรจาปรับลดราคากลับกลุ่มกิจการร่วมค้า SCN-CHO ซึ่งเป็นเพียงผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่ยื่นเสนอราคา โดยคาดการเจรจาจะเสร็จสิ้นและสามารถลงนามสัญญาภายในสิ้นปี60   รวมทั้งสามารถรับมอบภายใน มี.ค.61



++++มีรายงานจากที่ประชุมครม.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงในช่วงวาระรองนายกฯ ว่าขณะนี้กำลังเข้าสู่โหมดการเมืองดังนั้นการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลต้องปรับปรุง โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่มีข่าวดีกับรัฐบาล เช่น ธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์) จัดอันดับความยากจนของคนไทยลดลง และสหภาพยุโรป(อียู)ที่ปรับความสัมพันธ์ทางการเมืองกับไทย งานประชาสัมพันธ์ต้องเร่งทำให้สังคมเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลทำมานั้น เดินมาถูกทางแล้ว 



+++นอกจากนี้ ต้องมีการปรับกลยุทธ์งานประชาสัมพันธ์ให้เท่าทันกับฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลที่พยายามดิสเครดิตมาโดยตลอด จึงไม่อยากให้ผลงานที่รัฐบาลทำมาจำนวนมาก ต้องโดนกลบโดยเรื่องที่ไม่ดี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์เข้ามาดูแลการประชาสัมพันธ์ของรัฐมนตรีด้วยขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมร่วมกันของทั้งพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯและ รมว.ยุติธรรม ตนและนายกอบศักดิ์ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องแต่ละกระทรวงในเรื่องการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาล ทุกคนต้องช่วยกันชี้แจงตามบทบาทอำนาจหน้าที่ ซึ่งแต่ละกระทรวงต้องร่วมเข้ามาดูในเรื่องนี้ด้วย โดยสามารถระบุตัวบุคคลได้ชัดเจนว่าใครสามารถชี้แจงเรื่องใดได้บ้าง ทั้งข้อมูลบิดเบือนหรือข้อมูลที่ประชาชนสนใจ รวมถึงประเด็นร้อนทั้งเรื่องดีและที่มีผลกระทบในเชิงเสียหาย เราจะหยิบข้อมูลส่งให้ผู้เกี่ยวข้องแต่ละกระทรวงชี้แจงทันที และชี้แจงอย่างไรก็ให้ส่งข้อมูลที่ชี้แจงกลับมา



+++หลังน.ส.พรทิพย์ ปาลวงศ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/9 หมู่ 6ต.ย่านยาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ธ.ค.60 จำนวน 1 คู่ เลข  451005 และได้ไปลงบันทึกประจำวันวันที่ สภ.สามชุกเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.60 หลังจากลอตเตอรี่ออก ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.60 นางประดับ จันทร์อ่วม อายุ 71 ปี ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.สมบุญ สียางนอก สว.สอบสวน สภ.สามชุก ว่าลอตเตอรี่ใบดังกล่าวเป็นของตนเองที่ทำหล่นหายไป จนทำให้มีข้อพิพาทเป็นคดีความกันอยู่ในขณะนี้



+++ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำพยานฝ่ายโจทย์อีกหลายปากที่นางประดับ จันทร์อ่วม อ้างถึง เช่นนายสกล เศรษฐไพบูลย์ หรือเปี๊ยก คนขายลอตเตอรี่ ซึ่งให้การว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวเป็นของนายเปี๊ยกจริง และนางประดับ มาซื้อลอตเตอรี่จริง และจำไม่ได้ว่าซื้อเลขอะไรไป และได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปถึงสำนักงานกองสลากเพื่อขอนำลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าว ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจ DNA ที่ติดอยู่ และหารอยนิ้วมือแผงที่ติดอยู่ในใบลอตเตอรี่ ซึ่งเมื่อรวบรวมเอกสารพยานหลักฐานทั้งหมดฝ่ายโจทย์แล้ว หากมีความน่าเชื่อว่าคดีมีความเชื่อมโยงกัน ก็จะออกหมายเรียกเชิญ น.ส.พรทิพย์ ปาลวงศ์ แจ้งข้อกล่าวหาฐานยักยอกทรัพย์ หรือลักทรัพย์ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าจะเข้าไปถึงข่ายความผิดไหน และต้องสอบปากคำ น.ส.พรทิพย์ ถึงการได้มาของลอตเตอรี่ดังกล่าวด้วยว่าที่มาที่ไปของการได้ลอตเตอรี่ได้มาอย่างไร ซึ่งคดีนี้ไม่มีความซับซ้อนและไม่ใช่มีการทำกันเป็นขบวนการแต่อย่างใด ต้องขอสรุปพยานหลักฐานทั้งหมดก่อนก็จะทราบเรื่องทั้งหมด



+++ด้านนางประยูร แพร่งหระโทก อายุ 49 ปี ลูกสาวของนางประดับ เปิดเผยว่า แม่ได้เดินทางไปที่กองปราบปราม เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองกองปราบ ซึ่งทางตำรวจกองปราบได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค.ครั้งหนึ่งแล้วโดยได้ขอตรวจกล้องวงจรปิดภายในวัดบางขวากซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดนำไปเป็นหลักฐานด้วย ซึ่งในกล้องวงจนปิดจะเห็นความเคลื่อนไหวทั้งหมด  ส่วนเรื่องของพยานหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวเป็นของแม่ตนเองจริง ก็มีเพื่อนบ้าน และคนที่มาช่วยงานศพที่วัดเห็นและทราบกันหลายคน เนื่องจากก่อนที่ลอตเตอรี่จะหายแม่ได้เอาลอตเตอรี่ออกมาโชว์ด้วย ซึ่งก็ต้องฝากความหวังไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 



+++หลังนายอาทิตย์ จักรคุ้ม หรือฉายาท็อป ฮาวดี้ หนุ่มชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อว่า “ท็อป ฮาวดี้” โดยในคลิปเป็นภาพที่นายอาทิตย์ เดินเข้าไปด้านหลังของบ้านหลังหนึ่ง พร้อมด้วยขวดบรรจุน้ำมัน แล้วใช้ถ้อยคำหยาบคายและรุนแรง ลักษณะต่อว่าคนในบ้านว่ายืมเงินแล้วไม่ใช้คืนต้องเจอเผาบ้านแบบนี้ ก่อนจะลงมือเทน้ำมันราดและจุดไฟเผาบ้านบริเวณฝาบ้านจนได้รับความเสียหาย โดยเหตุเกิดเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 9 ธ.ค.ที่ ส่วนบ้านของผู้เสียหายคือบ้านของนายหัส โพธิ์เงิน ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.แคนดง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสอบภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับชุดสืบ สภ.แคนดง ท้องที่เกิดเหตุ ได้นำหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าทำการจับกุมตัวนายอาทิตย์ หรือท็อป ฮาวดี้ ได้แล้ว ขณะหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเช่าของแฟนสาวที่เพิ่งคบหากันได้ 1 ปี ในท้องที่ อ.สตึก จากการสอบถามนายอาทิตย์ หรือ “ท็อป ฮาวดี้” ถึงชนวนเหตุที่ไปจุดไฟเผาบ้านและไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กว่า เพียงต้องการข่มขู่ให้นายทัน ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้านหวาดกลัว เพื่อจะได้นำเงินที่ยืมไปล่าสุดเมื่อ 3 เดือนก่อนจำนวน 10,000 บาทมาคืนให้เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะเผาทำให้เสียหาย หากตั้งใจจะเผาจริงคงไหม้หมดทั้งหลังแล้ว



+++และนายทัน เองก็เคยเรียนด้วยกันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เงินที่นายทัน ยืมไปก็ไม่ได้คิดดอกเบี้ยเลย ส่วนที่โพสต์ในเฟซว่านายทัน เป็นหนี้ 100,000 บาท นั้น จริงแล้วเป็นยอดที่ยืมสะสมมาต่อเนื่อง ยอมรับว่าภาพที่ปรากฏออกไปอาจจะดูรุนแรง จึงอยากฝากขอโทษสังคมที่กระทำตัวอย่างที่ไม่ดี หากย้อนกลับไปได้ก็คงไม่คิดทำ เพราะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ทั้งอยากขอให้สังคมเห็นใจเพราะเงินที่นายทัน ยืมไปและตนเองไปทวงคืนก็เพื่อจะนำมาเลี้ยงลูก 2 คน วัย 2 ขวบกับ 8 ขวบ และตนเองกับนายทัน ก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก เวลาที่นายทัน เดือดร้อนตนเองก็ช่วยเหลือตลอด แต่เวลาที่ตัวเองจำเป็นไปทวงเงินคืนกลับหนีหายไม่ติดต่อกลับเลย



+++คดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจที่เสียชีวิตระหว่างโดยสารรถไปกับพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อนสนิทซึ่งเป็นผู้ขับรถ และเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนรั้วและต้นไม้เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ล่าสุดวันนี้ศาลพระโขนง นัดฟังคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องคดีฆาตกรรมชูวงษ์ โดยศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งประทับรับฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ปกปิด ซ่อนเร้น, และมุ่งเน้นเอาทรัพย์ผู้อื่น มูลเหตุจูงใจจากหุ้นมูลค่าหลายร้อยล้านบาทไว้พิจารณาต่อ เนื่องจากคดีดังกล่าวมีมูลตามข้อเท็จจริง  เพราะศาลเชื่อตามพยานหลักฐานที่ยื่นต่อศาลว่า นายชูวงษ์ ถูกทำให้เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุ ทั้งนี้รายละเอียดของการเสียชีวิตและประเด็นต่างๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อรูปคดี โดยศาลได้นัดพร้อมคู่ความวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ขณะที่ ญาติของนายชูวงษ์ก็พอใจกับคำสั่งดังกล่าวเนื่องจากต้องการให้การเสียชีวิตของนายชูวงษ์มีความชัดเจนมากขึ้น และหากเป็นการฆาตกรรม ก็จะได้ลงโทษผู้กระทำความผิดต่อไป

ข่าวทั้งหมด

X