การจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี พลตำรวจโทสาคร ทองมุณี รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมนายเสกสรร มุธุตา พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงสีดำ 1 ใบ ในนั้นมีหนังสือเดินทางสาธารณรัฐเกาหลี ระบุชื่อน.ส. คิม จูฮี (Miss Kim Juhee ) อายุ 30 ปี พร้อมกับทรัพย์สินต่างๆหลายรายการ การจับกุมครั้งนี้ สืบสวนจากเมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคม ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีถูกแท็กซี่ลักทรัพย์ บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนพัทยาเหนือ ชุดสืบสวนจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหญิงสาวชาวเกาหลีชื่อน.ส. คิม จูฮี ให้การว่า กำลังจะเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจ้างรถแท็กซี่สีแดงเหลือง โดยสารมาจากพัทยา จังหวัดชลบุรี และมาเปลี่ยนรถแท็กซี่อีกคันหนึ่งที่มีนายเสกสรรเป็นคนขับที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนพัทยาเหนือ เพื่อเดินทางต่อ แต่เมื่อขนสัมภาระขึ้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวแล้ว ระหว่างตกลงราคายังไม่แล้วเสร็จ นายเสกสรร ได้ขับรถออกไป โดยนำสัมภาระและทรัพย์สินของผู้เสียหายไปด้วย
ต่อมาตำรวจติดตามและจับกุมนายเสกสรรได้ที่พัทยา จึงเชิญผู้เสียหายให้เข้ามาตรวจสอบทรัพย์สิน ก่อนจะจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหากับนายเสกสรร ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเสกสรร มาแถลงข่าวด้วย แต่นายเสกสรร ปฏิเสธว่าไม่ได้ลักทรัพย์ ชี้แจงว่า ไม่ทราบว่าในรถมีกระเป๋าของน.ส. คิม แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ เพราะไม่มีการนำสิ่งของมาคืนให้ จึงได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป
ภายหลังการแถลงข่าวนายปาร์ค แจฮวา กงสุล(ฝ่ายตำรวจ) นำดอกไม้มามอบให้ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อขอบคุณที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเข้ามามากถึง2ล้านคนต่อปี
ขณะที่ พลตำรวจโทสาคร ระบุว่า เป็นหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว อยากขอให้เหตุการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้าย
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ