*สธ.เฝ้าระวังอีโบล่า ต่อเนื่อง ญ.48 ปี วันนี้ไม่มีไข้*

การเฝ้าระวังไวรัสอีโบล่า หลังจาก กระทรวงสาธารณสุข แถลง สอบสวนโรค หญิงชาวไทยอายุ 48 ปี ที่เดินทางกลับจากไลบีเรีย และเฝ้าดูอาการอยู่ที่ สถาบันบำราศนราดูร  นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า  ขณะนี้ได้รับรายงานจากแพทย์ ว่า ผลตรวจเลือดและการตรวจเบื้องต้น ผู้ป่วยไม่มีอาการเป็นไข้ โดยอุณหภูมิอยู่ที่ 37องศา ซึ่งถืออุณหภูมิร่างกายปกติ แต่ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่องก่อน

ขณะที่ในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ ประชุมเตรียมความพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ ด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ กรณีหากพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบล่า ให้มีการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างรวดเร็ว และมีมาตราฐานที่มีประสิทธิภาพ นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า การป้องกันเชื่อไว้รัสอีโบล่าในไทย ขณะนี้ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เน้นให้กระทรวงสาธารณสุข ดูแลและพร้อมให้การสนันสนุนในด้านการแพทย์ โดยขณะนี้ได้ประกาศให้เชื่อไวรัสอีโบล่าเป็นโรคร้ายแรง เพื่อที่จะให้สามารถดูแลได้ทั่วถึงในทุกพื้นที่ โดยมีมาตราการที่วางไว้ คือ การเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ และ หากพบผู้ติดเชื่อ ก็จะมีขั้นตอนการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนการดูแลสถานการณ์ในขณะนี้ก็มอบให้กรมการแพทย์ ทำงานร่วมกับ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นผู้วินิจฉัยและออกประกาศในเรื่องนี้โดยตรง และก็ได้ตั้งอนุกรรมเพื่อตรวจวินิจฉัย และยับยั้งเชื้อไวรัสอีโบล่า โดยได้รับร่วมมือกับจากสถาบันมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ต่าง เช่น แพทย์ศิริราช แพทย์จุฬาฯ 

ขณะนี้ได้สั่งให้มีสถานพยาบาลที่รองรับหากพบผู้ป่วยผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบล่า โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ มอบให้ โรงพยาบาลราชวิถิ โรงพยาบาลนพรัตน์ โรงพยาบาลเด็ก และสถาบันบำราศนราดูร ในส่วนของภูมิภาค ก็ได้มอบให้โรงพยาบาลศูนย์ทั่วไปคอยดูแล โดยทั้งนี้มาตราในการการป้องกันโรคไวรัสอีโบล่าก็จะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์  ซึ่งเรื่องที่ทางกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญมากที่สุด ก็คือ การให้ความปลอดภัยใน บุคคลากรทางการแพทย์ ซึ่งจะตัวบ่งชี้ถึงสถานการณ์ของประเทศไทยว่า สามารถควบคุมได้หรือไม่