ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.
+++ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป แอร์โดกัน ของตุรกี และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ต่างออกมาเตือนว่า การรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลเพิ่มความเสี่ยงทำให้ตะวันออกกลางยิ่งลุกเป็นไฟ ขณะที่ตุรกีย้ำว่าการต่อสู้ของชาวมุสลิมไม่มีวันเลิกราจนกว่าจะมีการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ พร้อมชี้ว่าการประชุมกลุ่มความร่วมมืออิสลามวันพุธนี้ ในฐานะเจ้าภาพจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ไปเยือนนกรุงบรัสเซลส์ เพื่อขอให้พันธมิตรสหภาพยุโรป (อียู) เดินรอยตามสหรัฐรับรองสถานะเยรูซาเลม กลับได้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศอียูต่างปฏิเสธ และว่า การรับรองเมืองหลวงของอิสราเอลฝ่ายเดียวเสี่ยงที่จะจุดชนวนความรุนแรงและทำลายโอกาสในการสร้างสันติภาพ
+++ชายชาวบังกลาเทศ ผู้ถูกกล่าวหาใช้ระเบิดโจมตีสถานีรถไฟใต้ดินนิวยอร์กในช่วงเวลาเร่งด่วนเมื่อวันจันทร์(11ธ.ค.) โพสต์ข้อความเย้ยหยันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่นานก่อนลงมือ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร(12ธ.ค.)เอกสารคำฟ้องระบุว่า อาคายเอ็ด อุลเลาะห์ ผู้ต้องหาวัย 27 ปี เขียนบนเฟซบุ๊กในตอนเช้าวันจันทร์(11ธ.ค.) ว่า "ทรัมป์ คุณล้มเหลวในการปกป้องประเทศของคุณ"ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกมาหลังจาก อุลเลาะห์ ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย โดยอัยการบอกว่า อดีตคนขับแท็กซี่ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)รายนี้ หวังฆ่าผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากการจุดชนวนไปป์บอมบ์ที่ติดอยู่กับหน้าอกของเขาระหว่างที่เดินผ่านอุโมงค์ทางเดินใต้ดินแห่งหนึ่ง แต่ความพยายามระเบิดฆ่าตายโจมตีล้มเหลว จากระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์
+++เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้ที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติของบริษัทก๊าซคอนเน็คในเมืองบวมการ์เทน ทางภาคตะวันออกของประเทศออสเตรีย เมื่อเวลา 08.45 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ มีคนเสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 18 คน แต่สื่อบางสำนักระบุว่ามีคนบาดเจ็บ 60 คน ทีมกู้ภัยได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บทางเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลในย่านใกล้เคียง ขณะนี้ทีมดับเพลิงสามารถดับไฟได้หมดแล้ว หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่บริษัทก๊าซคอนเน็คได้หยุดเดินเครื่องจักรของโรงแยกก๊าซฯทันที ขณะเดียวกันตำรวจได้ปิดกั้นพื้นที่โดยรอบจุดเกิดเหตุ แต่นายอาร์มิน ไทเชอร์ท โฆษกบริษัทฯคาดว่าเหตุระเบิดนี้จะไม่กระทบต่อการส่งก๊าซธรรมชาติไปยังพื้นที่อื่นๆของออสเตรีย แต่อาจจะมีผลให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ถูกส่งไปยังอิตาลีและโครเอเชียมีปริมาณน้อยกว่าปกติในระยะนี้ ส่วนเรื่องสาเหตุของเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ระบุว่าเกิดจากปัญหาขัดข้องทางเทคนิค
+++นายเอียน แม็คโดนัล โฆษกสำนักงานป่าไม้และป้องกันไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯว่า ทีมดับเพลิงหวังว่าจะมีความคืบหน้าโดยต่อเนื่องในการดับไฟป่าหลายจุด โดยเฉพาะจุดที่ 5 ที่เรียกว่าโธมัส ไฟเออร์ เป็นจุดที่มีไฟป่าขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ด้านนายริช ทอมป์สัน เจ้าหน้าที่จากสำนักพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯคาดว่ากระแสลมจะยังคงแรงคือ 65 กม.ต่อชม.และสภาพอากาศชื่นต่ำมากที่จะมีต่อเนื่องไปถึงวันพฤหัสบดีนี้จะเป็นอุปสรรคในการดับไฟป่า ไฟป่าเผาพื้นที่ป่าเสียหายแล้ว 231,700 เอเคอร์ในเขตเทศมณฑลเวนทูราและซานตา บาร์บารา ในแถบชานเมืองห่างจากลอสแอนเจลิสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 100 ไมล์ มีการสั่งปิดโรงเรียนหลายแห่งในสัปดาห์นี้ โดยไฟป่ายังคงลุกไหม้ แต่เริ่มลุกลามช้าลงมากเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ไฟป่าเผาอาคารต่างๆเสียหายแล้ว 800 หลังคา รวมถึงบ้านเรือนกว่า 680 หลัง
+++เจ้าชายเซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์)เตือนว่า สภาพอากาศหนาวจัดที่เริ่มแผ่ปกคลุมเหนือคาบสมุทรเกาหลี อุณหภูมิลบ 1 องศาเซลเซียสในกรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือในระยะนี้ การจะพิจารณาลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม อาจจะเกิดผลไม่พึงประสงค์คือจะทำให้พลเมืองที่อ่อนแอที่สุด 13 ล้านคนจากจำนวนประชากร 25 ล้านคนในเกาหลีเหนือ เดือดร้อนหนักยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขอให้คณะมนตรีความมั่นคงสอบสวนเรื่องผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่เป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งก่อนๆด้วยเกาหลีเหนือถูกกล่าวหามานานแล้วว่าเมินเฉยต่อสภาพความเป็นอยู่ของพลเมือง ปัญหาขาดแคลนอาหารตั้งแต่ปี 2533 ส่งผลให้มีคนเสียชีวิตแล้ว 2,500,000 ศพ ที่สำคัญคือ ปัญหาน้ำท่วมเมื่อเร็วๆนี้และภัยแล้งหนักกว่าทุกปีในปีนี้อาจจะกระทบต่อภาคเกษตรกรรมของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง นอกจากนั้นปัญหาการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ไปไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่
+++ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไร สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนมกราคม ลดลง 85 เซนต์ ปิดที่ 57.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯขยับขึ้นในวันอังคาร(12ธ.ค.) โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500 ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ จากแรงหนุนของกลุ่มการเงินท่ามกลางความคืบหน้าของแผนลดภาษีในสภาคองเกรสและความคาดหมายว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 118.77 จุด ปิดที่ 24,504.80 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.12 จุด ปิดที่ 2,664.11 จุด ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟดจะแถลงผลการประชุมในวันพุธคาดว่า จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(12ธ.ค.) ปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,241.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++นางซาราห์ แซนเดอร์ แฮกเคอร์บีย์ โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯว่า ทำเนียบขาวขอปฏิเสธข้อเสนอการขอให้ส่งเรื่องให้สภาคองเกรสของสหรัฐฯทำการไต่สวนคำอ้างที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ เคยล่วงละเมิดทางเพศสตรีหลายคนในช่วงก่อนเข้าไปทำงานการเมือง ระบุว่า เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่สมััยก่อนที่นายทรัมป์จะเข้าไปทำงานการเมือง ที่สำคัญคือพลเมืองชาวอเมริกันได้แสดงความเห็นในประเด็นนี้แล้วโดยการเลือกนายทรัมป์ให้เข้าไปดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมตั้งข้อสังเกตเรื่องระยะเวลาและความมีพิรุธของการเปิดโปงเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงในช่วงเวลาเช่นนี้บ่งชี้ชัดเจนว่า มีเหตุจูงใจทางการเมือง เพื่อให้มีการไต่สวนนายทรัมป์ก่อนหน้านี้ สตรีทั้ง 3 คนเคยออกมาแฉเรื่องนี้ครั้งหนึ่งแล้วระหว่างรณรงค์เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว ระบุว่าพวกเธอขอออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ซ้ำอีกครั้งเนื่องจากเรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นที่คนทั่วโลกเริ่มให้ความสนใจและร่วมประณามคนทำความผิดในเพศอย่างชัดเจน โดยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีสตรีหลายคนออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าเคยถูกผู้นำระดับสูงในแวดวงบันเทิง,สื่อมวลชน,ธุรกิจและในแวดวงการเมือง ล่วงละเมิดทางเพศ จนกลายเป็นกระแสความเคลื่อนไหวทางสังคม หลังดาราสาวชื่อดังหลายคนออกมาแฉว่า เคยถูกนายฮาร์วี่ย์ ไวน์สไตน์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดังของฮอลลีวูด ล่วงละเมิดทางเพศ