นายกฯย้ำปชช.ทบทวนสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี  เปิดเผยถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตส.ส.สุโขทัยพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงนายกรัฐมนตรี ที่จะมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.พิษณุโลก และสุโขทัย ในวันที่ 25-26 ธันวาคมนี้ โดยนายสมศักดิ์ได้นำเสนอของบประมาณเพื่อพัฒนา จ.สุโขทัย5,000 ล้านบาทว่า การลงพื้นที่ มีจุดประสงค์เพื่อไปดูแลและพัฒนาพื้นที่อยู่แล้ว พร้อมจะมีการหารือกับหน่วยงานในพื้นที่ เช่น คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ)จังหวัด /สมาคมหอการค้าอุตสาหกรรม และภาคท้องถิ่นภาคเอกชน ซึ่งโครงการใดที่อยู่ในแผนงานของรัฐบาลประจำปีแล้ว ก็จะเร่งทำให้สอดคล้องกับข้อเสนอที่มีการเสนอเข้ามา พร้อมจะมีการจัดสรรงบประมาณให้ตามความจำเป็น ยืนยันว่าการจัดงบประมาณต่างๆให้แก่จังหวัดสุโขทัย ไม่เกี่ยวกับการที่นายสมศักดิ์ เสนอขอมา

ส่วนข้อเสนอที่ต้องการให้มีการรื้อฟื้นโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้น ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันยังติดปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม /พื้นที่ป่า รวมถึงการต่อต้านของประชาชนบ้างส่วน จึงฝากให้ประชาชนได้ตระหนักถึงผลกระทบและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากอุทกภัยน้ำท่วมหรือน้ำแล้งหากไม่สามารถเดินหน้าสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นหรืออ่างเก็บน้ำได้ เพราะโครงการดังกล่าวจะช่วยชะลอมวลน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลลงสู่พื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีการสร้างระบบบริหารจัดการน้ำที่ดี ส่วนประชาชนหรือป่าไม้ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างนั้นก็จะมีการจัดสรรพื้นที่ทดแทนต่อไป ซึ่งอยู่ในระหว่างการสำรวจที่ตนเองได้สั่งการไปแล้ว แต่ยืนยันทุกอย่างต้องขึ้นอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชน

ส่วนข้อเสนอจากรัฐวิสาหกิจจีน ที่เสนอขายรถเมล์ NGV ให้กับ องค์การขนส่งมวลชน หรือขสมก ในราคาที่ต่ำกว่าราคากลางที่ ขสมก กำหนด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการตรวจแล้วว่า เป็นของมณฑลท้องถิ่นจีน แต่ยังไม่มั่นใจมาตรฐานการผลิต ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และหากดำเนินการได้ก็จะดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว แต่ยืนยันว่า ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมาย  ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบบริษัทผู้ผลิตเป็นจีนอย่างละเอียด ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ จึงขอให้เข้าใจว่าต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เพราะหากดีจริงก็อยากให้นำเข้ามา โดยต้องกำหนดโควตาในการจัดซื้อ รวมถึงให้บริษัทต่อรถในไทยเองได้ทีโอกาสในการแข่งขันเพราะตนเองต้องดูแลให้ครอบคลุม เพราะไม่ต้องการซื้ออย่างเดียว แต่อยากให้มีการผลิต และสร้างภายในประเทศได้ด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง เหตุการณ์จับกุมเนตไอดอลรายหนึ่งที่ จ.ชลบุรี ในข้อหาครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ว่า ตนเองเห็นข่าวแล้ว ส่วนที่มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยนั้น นายกรัฐมนตรีระบุ มีความผิดก็ต้องดำเนินการ พร้อมตั้งคำถามกลับ จะให้ปล่อยไป และเห็นว่าเนตไอดอลรายดังกล่าวขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่  เพราะทุกอย่างล้วนเกิดจากการละเมิดกฎหมาย และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย การบอกว่าเจ้าหน้าทำเกินกว่าเหตุนั้น ก็เพราะผู้กระทำผิดไม่ให้ความร่วมมือ ขอให้ทุกคนช่วยเข้าใจและมองในประเด็นนี้ด้วย