อียูคืนความสัมพันธ์ทางการเมืองไทย/คนร้ายบังกลาเทศก่อเหตุระเบิดที่แมนฮัตตัน

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีการต่างประเทศสหภาพยุโรป หรือ อียู มีมติให้คืนความสัมพันธ์ทางการเมืองทุกระดับกับประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การเจรจาที่มีความสำคัญ หลังจากระงับมานาน 3 ปี เพื่อประท้วงกรณีรัฐประหาร โดยมีความเห็นว่ามีความก้าวหน้าหลายอย่างในเชิงบวก โดยเฉพาะการประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ประกาศว่าจะจัดการเลือกตั้งในปีหน้า อียูคือคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย รองจากจีนและญี่ปุ่น มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไปอียูอยู่ที่ 19,600 ล้านยูโรในปี 2558 ส่วน อียู ส่งสินค้าออกไปมายังไทย คิดเป็นมูลค่า 13,400 ล้านยูโร ในปี 2558

ความคืบหน้าเหตุระเบิดที่อุโมงค์ซึ่งเชื่อมต่อรถไฟใต้ดินกับสถานีรถบัสพอร์ท ออธอร์ริตี ใกล้จตุรัสไทม์สแควร์ และสถานีรถโดยสารเขตแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย รวมคนร้ายที่ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ในทันทีเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากระเบิดชนิดไปป์บอมบ์ที่เขาใช้ในการก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายอาเค อุลลาห์ อายุ 27 ปี สัญชาติบังกลาเทศ สารภาพว่าก่อเหตุตามคำประกาศของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส อาศัยอยู่ในสหรัฐมานาน 7 ปี ขณะที่จุดชนวนระเบิด เขาได้ประกาศถ้อยคำที่ผู้ก่อการร้ายไอเอสมักกล่าวก่อนลงมือก่อเหตุ

ส่วนความคืบหน้าอาการของผู้บาดเจ็บทั้ง 4 คนตำรวจระบุว่ามีอาการไม่รุนแรง หลังเกิดเหตุได้อพยพผู้คนออกจากพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และให้รถไฟใต้ดินที่ต้องแล่นผ่านสถานีใกล้กับที่เกิดเหตุ ไม่ต้องจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีแห่งนี้

น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าขณะนี้ไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดบริเวณสถานี Port Authority เกาะแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ขอให้คนไทยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และหากต้องการติดต่อสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อฮอตไลน์สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครนิวยอร์ก ที่หมายเลขโทรศัพท์ +1 646 842 0864

โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้รับรายงานเหตุระเบิดที่แมนฮัตตันแล้ว

ส่วนนายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าวว่า เป็นเหตุก่อการร้าย

กรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศรับรองให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลเดินทางเยือนหลายประเทศเพื่อขอเสียงสนับสนุน แต่ในการที่เขาเข้าพบกับผู้บริหารของสหภาพยุโรปหรืออียูที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เขากล่าวยืนยันว่า เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล และการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้คำรับรองก็ไม่ได้เป็นการทำลายสันติภาพ แต่จะทำให้กระบวนการสันติภาพเป็นไปได้ เพราะเป็นการรับรองความเป็นจริง อย่างไรก็ตามนางเฟเดอริกา ม็อกเกรินี ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของอียู กล่าวว่า อียูประกาศไม่เปลี่ยนจุดยืน และเชื่อมั่นในนโยบายสองรัฐ

ด้านประธานาธิบดีรีเซป เทย์ยิบ เออร์โดกัน แห่งตุรกี ประกาศไม่รับรองให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล ทั้งกล่าวหาว่าอิสราเอลเป็นรัฐก่อการร้ายฆ่า ซึ่งทำให้นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ตอบโต้ว่าประธานาธิบดีตุรกีคือผู้สั่งการก่อเหตุระเบิดหมู่บ้านชาวเคิร์ด และสนับสนุนผู้ก่อการร้าย

ขณะที่ สหรัฐฯ กล่าวหาทางการปาเลสไตน์ว่าละทิ้งโอกาสหารือสันติภาพตะวันออกกลางด้วยการยกเลิกกำหนดนัดหารือระหว่างผู้นำปาเลสไตน์กับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯที่กำลังจะเดินทางเยือนปาเลสไตน์ในปลายเดือนนี้ ส่วนการชุมนุมประท้วงลุกลามไปในหลายประเทศตั้งแต่ในนครเยรูซาเล็ม, เวสต์แบงก์และฉนวนกาซา จนถึงหน้าสถานทูตสหรัฐในกรุงเบรุตของเลบานอน และในปากีสถาน

ทางการจีนปฏิเสธคำเตือนของสำนักงานหน่วยข่าวกรองของเยอรมนีที่ว่า จีนใช้เว็บไซต์หางานที่มีลักษณะคล้ายเฟซบุ๊ก รวบรวมข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองเยอรมัน โดยใช้ชื่อปลอมในการสมัคร

นายหลี่ เค่อซิน นักการทูตของจีน กล่าวเตือนสหรัฐฯว่า หากสหรัฐฯ ส่งเรือรบเข้าไปยังเมืองเกาสงของไต้หวัน ทางกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะใช้อำนาจตามกฎหมายต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน (Anti-Secession Law) ต่อไต้หวัน ซึ่งทางการไต้หวันเห็นว่าเป็นคำขู่ที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ และแสดงให้เห็นถึงความไม่รู้เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย

ส่วนสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี นายเบ็ก แต-ฮยุน โฆษกกระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า รัฐบาลออกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อองค์กรและชาวเกาหลีเหนือเพิ่มเติม เพื่อตัดเส้นทางการเงินที่จะนำไปใช้ในโครงการนิวเคลียร์ โดยในมาตรการเพิ่มเติม ได้เพิ่มชื่อองค์กรของเกาหลีเหนืออีก 20 กลุ่ม รวมถึงธนาคารและธุรกิจ กับมีชาวเกาหลีเหนือ 12 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานให้กับธนาคารและบริษัทของเกาหลีเหนือที่อยู่ในจีน, รัสเซีย, เวียดนาม และนามิเบีย

สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม ออกรายงานระบุว่า อุตสาหกรรมทหารของเกาหลีใต้ ครองสัดส่วนร้อยละ 2.2 ของผู้ผลิตอาวุธ 100 อันดับแรกของโลกเมื่อปีที่แล้ว บรรดาบริษัทผู้ผลิตอาวุธของเกาหลีใต้มียอดขายรวมกันทั้งสิ้น 84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.7 ล้านล้านบาท ซึ่งเท่ากับยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.6 เมื่อเทียบกับปี 2558ด้านกองทัพเกาหลีใต้แจ้งว่า สหรัฐฯ, เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เริ่มการซ้อมรบร่วมเพื่อติดตามขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือโดยจะมีการซ้อมรบเป็นเวลา 2 วันในน่านน้ำใกล้คาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่น

กลาโหมกาตาร์ลงนามในสัญญาซื้อเครื่องบินรบไต้ฝุ่น 24 ลำจากสหราชอาณาจักรมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อเครื่องบินไต้ฝุ่นล็อตใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ และเป็นคำสั่งซื้ออาวุธครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ เนื่องจากวิกฤตทางการเมืองและความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง

ขณะที่สหราชอาณาจักรและยุโรปหลายประเทศกำลังเผชิญพายุหิมะที่รุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปี ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินเฉพาะที่นครแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี มีการยกเลิกเที่ยวบินแล้วมากกว่า 330 เที่ยวบิน สำหรับพายุหิมะที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากอิทธิพลของพายุแคโรไลน์ที่ปกคลุมพื้นที่ทางเหนือของแคว้นสก๊อตแลนด์ ส่งผลให้อุณหภูมิทั่วทั้งสหราชอาณาจักรลดลงอย่างต่อเนื่อง เกิดหิมะตกหนักจนต้องปิดการจราจรทั้งทางถนน รถไฟ และการบิน

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ ปิดที่ 57.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 56.87 จุด หรือร้อยละ 0.23 ปิดที่ 24,386.03 จุด

เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 8.49 จุด หรือร้อยละ 0.32 ปิดที่ 2,659.99 จุด

แนสแดค เพิ่มขึ้น 35.00 จุด หรือร้อยละ 0.51 ปิดที่ 6,875.08 จุด

...