แผนขยายตลาดข้าวไทยในปีหน้า นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้จัดทำแผนการขยายตลาดข้าวไทยปี 2561 เสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการนำหารือกับ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กำกับดูแลกรมโดยจะเน้นการขยายตลาดข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เพื่อเร่งรัดให้จีนรับมอบข้าวภายใต้สัญญาปัจจุบันที่เหลืออีก 6 แสนให้ครบโดยเร็ว และจะผลักดันการเจรจาให้จีนซื้อข้าวอีก 1 ล้านตันที่ 2 ภายใต้ MOU สินค้าเกษตรไทย-จีน ส่วนประเทศอื่นๆ จะเน้นการเจรจาขายให้กับอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ศรีลังกา, บังกลาเทศ, อิรัก, อิหร่าน และไนจีเรีย กับยังมีแผนที่จะร่วมกับภาคเอกชนจัดกิจกรรมขยายตลาด เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในตลาดเป้าหมาย เช่น ฮ่องกงและจีน
ส่วนความคืบหน้าของการเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-ตุรกี นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคมนี้ โดยจะมีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า และบทที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรการที่เกี่ยวข้องกับอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด มาตรการต่อต้านการอุดหนุน และกฎระเบียบต่างๆ เป็นต้น โดยทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าหมายจะเจรจาความตกลงฉบับนี้ให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 เพื่อฉลองความสัมพันธ์ไทย-ตุรกี ครบรอบ 60 ปี
ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานแถลงการจัดเทศกาลร่วมกับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ และห้างค้าปลีกทั่วประเทศกว่า 50 ราย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ในชื่อเทศกาลรวมใจ เพิ่มสุข ช้อปสนุก ลดรับปีใหม่ กำหนดจัดระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ถึง 4 มกราคม 2561 รวม 22 วัน โดยเป็นการจัดงานที่ได้รับความร่วมมือผู้ผลิตลดราคาสินค้า 20-80% กว่าหมื่นรายการ
ยังติดตามกรณีที่รัฐบาลเปิดเผยว่าดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2560 ปรับตัวสูงสุดรอบ 33 เดือน จากมาตรการช้อปช่วยชาติ และการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการรัฐ นอกจากนี้ธนาคารโลกยังประกาศว่าไทยเริ่มหลุดพ้นความยากจน สำนักงานด้านเศรษฐกิจหลายแห่งปรับคาดการณ์เศรษฐกิจว่าจะเติบโตได้ร้อยละ 4 แต่ยังพบปัญหาเศรษฐกิจฐานราก สินค้าเกษตรที่สำคัญยังมีราคาลดลง
ในรายงานการศึกษาวิจัยทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ชื่อ "ไรดิง เดอะ เวฟ" ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ธนาคารโลก แสดงความชื่นชมต่อบรรดาประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ที่ประสบความสำเร็จในการยกระดับประชาชนนับพันล้านคนพ้นจากสภาพความยากจน โดยยกให้ไทยกับมาเลเซียเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ในวันนี้ยังต้องจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ต้องติดตามว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง เพราะอาจจะทำให้ดอกเบี้ยสหรัฐสูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทย
และยังต้องติดตาม นาย อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้ สแลม ประธานโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งทีมงานแจ้งผ่านเฟซบุ๊กหยุดพัก 2 วันคือเมื่อวานและวันนี้ เนื่องจากมีอาการไข้ จะกลับมาวิ่งต่ออีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ และยังเหลืออีกประมาณ 690 กม. จะถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขณะที่ยอดบริจาคมีจำนวนมากกว่าเป้าหมาย 700 ล้านบาทไปแล้ว
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่าถึงการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์การต่อต้านการค้ามนุษย์เพื่อเผยแพร่บนเครื่องบิน (INFLIGHT VDO) โดยมีเนื้อหาจำลองเหตุการณ์การแสวงหาประโยชน์ทางเพศที่แฝงมากับการท่องเที่ยว บทลงโทษผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์ และภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศไทย โดยจะเผยแพร่บนสายการบินไทย และสายการบินระหว่างประเทศ บริเวณจุดรับกระเป๋าภายในสนามบิน เส้นทางคมนาคมต่างๆ ทั้งสถานีรถไฟ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ และรถบัสโดยสาร
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า INFLIGHT VDO จะเผยแพร่บนสายการบินไทยทั้งภายในและต่างประเทศรวมถึงจุดต่างๆในสนามบินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และจะขยายเผยแพร่บนรถบัส บขส. รถไฟ รวมถึงทางเรือ และตามสถานีต่างๆด้วย
และกรณี การจ่ายใบสั่งแบบคิวอาร์โค้ด ซึ่งจะเริ่มทดลองใช้ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ใน 4 พื้นที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า 4 พื้นที่ที่จะทดลองใช้คือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กรุงเทพมหานคร) กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ภาค 2 ภาค 7 โดยในระยะแรกจะเป็นการบังคับใช้เฉพาะกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ (ใบสั่ง) ติดไว้ที่หน้ารถ หรือในกรณีที่ไม่ได้มีการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว แต่ออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ไว้ เช่น กรณีจอดรถกีดขวางการจราจร จอดรถในที่ห้ามจอด ไม่ต้องไปสถานีตำรวจ สามารถชำระผ่านธนาคารกรุงไทย ตู้เอทีเอ็ม อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส คิดค่าธรรมเนียมครั้งละ 20 บาท หากไม่ชำระภายในกำหนดจะออกใบแจ้งเตือนให้มาชำระภายใน 30 วัน และจะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอดำเนินการงดออกเครื่องหมายแสดงภาษี จนกว่าจะชำระค่าปรับเสร็จสิ้น
...