วันอาทิตย์นี้เรายังอยู่กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จังหวัดระยอง เราจะมาส่งท้ายกันที่ สวน Rayong Smile Plants แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในกลุ่ม Young Smart Farmer ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์หม้อข้าวหม้อแกงลิงหลายร้อยสายพันธุ์ และเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม พร้อมกับชิมเมนูอาหารสุดพิเศษจากหม้อข้าวหม้อแกงลิง เช่น ยำหม้อทอด หม้อทอดกรอบ ส้มตำหม้อทอดนายประกิต โพธิ์ศรี เจ้าของสวน เล่าว่า เป็นคนชอบต้นไม้และมักปลูกต้นไม้เป็นงานอดิเรก จนกระทั่งได้ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่ใกล้จะสูญพันธุ์มาเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ แล้วนำไปประกวดจนได้รับรางวัลก็ทำให้เกิดแรงผลักดัน ให้อยากพัฒนาสายพันธุ์หม้อข้าวหม้อแกงลิงต่อไป โดยในปัจจุบันมีการนำออกจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ จีน ไต้หวัน เดือนหน้าจะส่งไปจำหน่ายแถบยุโรป
โดยภายในสวนส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นมา โดยใช้สายพันธุ์ไทยเป็นหลักและนำเข้าสายพันธุ์จากต่างประเทศมาผสมจนเกิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีความแปลก และมีสีใหม่ขึ้นมา โดยสายพันธุ์ไทยจะเป็นลักษณะทรงกลม สายพันธุ์ต่างประเทศจะเป็นลักษณะทรงกระบอก แต่การปลูกหม้อข้าวหม้อแกงลิงจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี กว่าจะออกหม้อที่ชัดเจน ซึ่งการปลูกปัจจัยหลักคือแดดและน้ำ ปัจจุบันในสวนมีหม้อข้าวหม้อแกงลิงมากกว่า 500 สายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์สยามเรด ,สายพันธุ์แอมพูลลาเรีย ที่กำลังใกล้สูญพันธุ์ ,สายพันธุ์สายไฮบริด ที่เคยได้รับรางวัลพระราชทาน โดยสายพันธุ์ที่สามารถพัฒนาและมีราคาถึงหลักแสน เช่น สายพันธุ์บ้านค่าย มีราคา 200,000 บาท เพราะมีหม้อเป็นสีขาวทั้งอัน ขณะที่ส่วนใหญ่หม้อข้าวหม้อแกงลิงจะเป็นสีเขียวหรือแดง
นายประกิต กล่าวว่า หม้อข้าวหม้อแกงลิงไม่ได้มีการหุบเมื่อแมลงเข้าไปอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่พนังด้านในนั้นลื่น เมื่อแมลงบินเข้าไปจะไม่สามารถบินออกมาได้ ก็จะตายอยู่ในน้ำหม้อ นอกจากนี้สมัยโบราณจะนำน้ำที่อยู่ข้างใน มาหยอดหูแก้หูน้ำหนวก หรือหยอดตาด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถชมสวน Rayong Smile Plant ได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00น.ไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทางสวนจะพาชมสายพันธุ์ต่างๆ สาธิตการเพาะปลูก ปลัก ชำ พัฒนาสายพันธุ์ พร้อมจำหน่าย หม้อข้าวหม้อแกงลิงให้สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ ส่วนวันจันทร์-ศุกร์ ก็สามารถมาเลือกซื้อหม้อข้าวหม้อแกงลิงได้เช่นกัน
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ