การจัดกิจกรรมเนื่องในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน มีตัวแทนหน่วยงานที่เป็นภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันทั้งภาครัฐและภาคเอกชนและต่างประเทศเข้าร่วม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่มีปัญหาเรื่องการทุจริต แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์การทุจริตในประเทศไทยถือว่าดีขึ้น แต่ยังต้องตั้งเป้าหมายให้ไทยหลุดพ้น โดยไทยได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันสำคัญให้ทุกคนในชาติตระหนักถึงและไม่ยอมรับการทุจริต โดยยอมรับว่าปัญหานี้เกิดขึ้นยาวนานแต่ไม่ยากเกินที่จะสร้างวัฒนธรรมในการแก้ไขการทุจริต ไม่ให้มีการคอร์รัปชัน ซื้อขายตำแหน่ง เอื้ออำนวยประโยชน์ การจัดซื้อจัดจ้างจะต้องมีการตรวจสอบทุกขั้นตอน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติและเขียนกฎหมาย รวมไปถึงการเร่งรัดการดำเนินคดีกับผู้ทุจริต ทำให้วิธีการทุจริตเก่า ๆ หมดสิ้น และไม่เปิดโอกาสให้มีการทุจริตรายใหม่เกิดขึ้น โดยสร้างภาคีเครือข่ายบูรณาการร่วมกัน ขณะเดียวกันการดำเนินการทั้งหมดต้องได้รับความร่วมมือจากสังคม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากพบมีการแอบอ้างรับผลประโยขน์ให้แจ้งมาที่ตัวเองหรือสำนักนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการให้โดยเด็ดขาด พร้อมยืนยันด้วยว่าตัวเองไม่เคยพบใครที่ให้ผลประโยชน์ และไม่เคยเปิดบ้านให้บุคคลเหล่านั้นเข้าพบมาก่อน
นายกรัฐมนตรี เล่าว่า เป็นนายกฯมา 3 ปี ลงพื้นที่เห็นแววตาประชาชนมีความชื่นชมยินดี พร้อมกับคาดหวังว่า รัฐบาลต้องพัฒนาสร้างรายได้เพิ่มขีดความสามารถให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น จึงฝากให้ผู้ที่เข้าร่วมรับฟังในวันนี้ว่าช่วยผลักดันในด้านนี้ด้วย ขณะเดียวกัน ต้องสร้างความเชื่อมั่น ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน โดยฝากข้าราชการทุกคน ว่าขณะนี้ต้องมองว่าจะต้องเดินหน้าประเทศอย่างไรบ้าง หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้นำข้าราชการและผู้ร่วมงานประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านคอร์รัปชันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังการเดินเยี่ยมชมนิทรรศการต่อต้านคอร์รัปชัน นายกรัฐมนตรี ได้เดินผ่านสื่อมวนชน โดยชูมือ พร้อมกล่าวว่าจะไม่ทนต่อการทุจริต รักทุกคน โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมวันนี้เพื่อต้องการให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริต ร่วมกันสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต สร้างจิตสำนึกในเรื่องเหล่านี้ เพื่อให้ประเทศน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของ ป.ป.ช. ปัจจุบันมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาเดือนละประมาณ 500 เรื่อง ปีละ 6,000 เรื่อง ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น โดยเราคิดว่าการร้องเรียนที่เพิ่มขึ้นเพราะประชาชนเริ่มมีความเชื่อมั่นในกระบวนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมากยิ่งขึ้น คาดว่า หลังจากนี้ 2-3 ปี เรื่องร้องเรียนเหล่านี้จะค่อยๆลดลง อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อให้การต่อต้านการคอร์รัปชันประสบผลสำเร็จอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี