ตามจับอีก1 ร่วมแก๊งอ้างเป็นป.ป.ส.บุกร้านซ่อมรถ หลักฐานยังไม่พบโยงยาเสพติด

08 ธันวาคม 2560, 15:13น.


การติดตามจับกุมคนร้ายชาย 3 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) บุกเข้าร้านซ่อมและตกแต่งรถจักรยานยนต์ย่านสายไหม พร้อมอาวุธปืน และหมายจับที่อ้างว่า ผู้เสียหายมีหมายจับคดีครอบครองยาเสพติด เสพยาและฟอกเงิน และใช้กุญแจมือล็อคแขนผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 



พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายวีระชัยศรีวณิก วรรณึกกุล นายศิวัช หล่ำศรี และ นายณรงค์ฤทธิ์ ทองพันธุ์ ร่วมกันก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง ในพื้นที่สน.คันนายาว และสน.สายไหม โดยพฤติกรรมจะเลือกบุคคลที่สามารถข่มขู่หรือเรียกรับเงินได้  และมีทรัพย์สินพอสมควรก่อนจะหาโอกาสและจังหวะอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้เสียหาย  เจ้าหน้าที่ แจ้งข้อหาร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น บุกรุกยามวิกาล โดยใช้อาวุธปืน พกพาอาวุธปืนไปใน ชุมชน หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว



ส่วนกรณีที่คนร้ายสามารถรู้ประวัติของผู้เสียหาย ก่อนเริ่มดำเนินการ พลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  กล่าวว่า ยังอยู่ในสำนวนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ อาจมีสาเหตุมาจากสังคมออนไลน์หรือรู้จักกับเจ้าหน้าที่ภายใน แต่เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพในคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่สน.สายไหม เนื่องจากมีภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงอย่างชัดเจน  มีวัตถุประสงค์มุ่งต่อทรัพย์สิน ทั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคดีเก่า เชื่อว่าคนร้ายทั้ง 3 คน จะมีคดีอื่นๆ อีก แต่จากการตรวจสอบยังไม่พบว่าผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด





นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุและอยู่ระหว่างการหลบหนีซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวเพื่อนำมาดำเนินคดีต่อไป ขณะที่อาวุธในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีอาวุธปืนอีก แต่ยังไม่พบ เนื่องจากคนร้ายอ้างว่าได้โยนทิ้งไปแล้ว ทั้งนี้ได้ฝากไปถึงประชาชนหากเคยพบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ และสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน สามารถมาดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.สายไหม และสน.คันนายาว ส่วนประชาชนทั่วไปหากพบเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่แอบอ้างขอค้นบ้าน ขอให้โทรสอบถามไปยังต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่หรือตรวจสอบชื่อของเจ้าหน้าที่ที่แสดงตน เพื่อจะได้ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่





ขณะที่นายเกียรติศักดิ์  สาระวดี หนึ่งในผู้เสียหายในพื้นที่ สน.คันนายาว ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่สน.สายไหม คล้ายเหตุการณ์ที่ตัวเองเคยประสบ คือ คนร้ายเข้ามาคุมตัว โดยอ้างว่ามีหมายจับในข้อหาครอบครองยาเสพติด และฟอกเงินก่อนจะมีการคุมตัวขึ้นรถและขับพาวนนานกว่า 3 ชั่วโมงก่อนที่จะนำทรัพย์สินที่มีติดตัวไป คือสร้อยคอทองคำ เงินสด และไอโฟน 7 พลัส ก่อนปล่อยลงกลางทาง หลบหนีไป โดยในวันนี้ได้มาดูตัวและยืนยันได้อย่างชัดเจน ซึ่งมั่นใจว่าผู้ต้องหา 2 ใน 3 คนที่ตำรวจสน.สายไหม จับได้เป็นคนเดียวกับที่เข้ามาควบคุมตัวเอง





ซึ่งการแถลงในวันนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาแถลง และจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจ.มีนบุรีวันนี้ นอกจากนี้ได้นำของกลางมาแสดงด้วย ประกอบด้วย ปืนพกสั้น 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุน ซองพกปืนสั้น รถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิสีเขียว 1 คัน หมวกนิรภัยเต็มใบ หมวกผ้าคลุมศีรษะ กางเกงขาสามส่วนสีเทา เสื้อโปโลแขนสั้นสีดำ รองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินและกุญแจมือ 





ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม 

ข่าวทั้งหมด

X