ม.ค.61สนช.พิจารณาวาระ2-3 กม.ลูกเลือกตั้งส.ส./พณ.ถกหาตลาดส่งออกน้ำมันปาล์ม/คลังเตรียมช่วยผู้มีรายได้น้อยล็อต2

07 ธันวาคม 2560, 09:02น.


+++การพิจารณากฎหมายลูก นายทวีศักดิ์ สูทกาวาทิน โฆษคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงว่า  ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญฯได้มีมติเลือกพล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ สมาชิกสนช.เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญฯ พร้อมกับกำหนดกรอบเวลาการประชุมสัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวให้เสร็จทันตามกำหนดเวลาในรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 เบื้องต้นพิจารณาไปแล้ว 10 มาตราจากทั้งหมด 178 มาตรา ยังไม่มีการปรับแก้ไขเนื้อหาไปจากที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)เสนอ กรรมาธิการวิสามัญฯจะดำเนินการพิจารณาเนื้อหาให้เสร็จและจะส่งให้สนช.พิจารณาลงในวาระที่ 2 และ3 เพื่อให้ความเห็นชอบในวันที่ 18 ม.ค.2561



+++ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่เลือกคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ครบ 7 คน ล่าสุดเมื่อวานนี้ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือก นายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ให้เป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต.คนที่ 2 ครบตามจำนวน นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวว่า เมื่อคณะกรรมการสรรหา กกต. และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ส่งรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาเป็น กกต.เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะต้องส่งรายชื่อทั้ง 7 คน มาให้ สนช.พิจารณา จะต้องนำเข้าวิป สนช. ตั้งกมธ.ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ผ่านการคัดเลือกว่ามีความประพฤติ จริยธรรม อาทิ เคยถูกร้องเรียนเรื่องการทุจริต การประพฤติผิดศีลธรรม ความเป็นกลางทางการเมืองหรือไม่ ถ้ามีต้องเรียกมาสอบถามข้อเท็จจริง จากนั้นจึงส่งเรื่องให้ที่ประชุม สนช.ลงมติให้ความเห็นชอบภายใน 45 วัน  หากสนช.ไม่เห็นชอบใคร เพราะมีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ต้องส่งรายชื่อกลับไปเพื่อสรรหาใหม่



+++การเชื่อมโยงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่ตรวจค้นได้ที่จ. ฉะเชิงเทรา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ด้านความมั่นคง กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้โอนสำนวนการสืบสวบสอบสวน จาก สภ.ดอนฉิมพลี จ.ฉะเชิงเทรา มาไว้ที่กองบังคับการปรามปราม (บก.ป.) โดยจะรอออกหมายจับมากกว่า 3 คน รวมทั้งคนที่ถูกคุมตัวโดยทหารไว้แล้ว และสั่งการขยายผลไปแล้วว่าสืบสวนสอบสวนไปถึงใครก็ดำเนินคดีขอหมายจับหมดอาจมากกว่า 5 คนก็ได้



+++คดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูใน จ.สกลนคร และนายสุริยา นวนเจริญ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ถูกฝากขังผัดแรกอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม ในข้อหาร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐาน อันเป็นเท็จต่อศาล และซ่องโจร  นายเสน่ห์ สุพรรณ อายุ 54 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร เดินทางมาพร้อมกับภรรยาและทนายความ เพื่อแสดงตัวตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน นายเสน่ห์เป็นประธานรุ่นนักศึกษาครูวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี มีนายสุริยา และนางจอมทรัพย์ เป็นเพื่อนร่วมรุ่น และในวันนี้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ชุดแรกที่ถูกระบุว่าเกี่ยวข้องกับการสร้างพยานหลักฐานเท็จจะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่หลังจากที่เลื่อนมาก่อนหน้านี้



+++พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า นายเสน่ห์เคยไปปรากฏตัวร่วมกับสองคนในหลายสถานที่ แต่จะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่นั้นอยู่ที่ผลการสอบสวนเชิงลึก เบื้องต้นแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จกับซ่องโจร โดยผู้ต้องหาปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังสอบสวนได้ส่งตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม ผัดแรก 12 วัน แต่ไม่คัดค้านการประกันตัว โดยนายเสน่ห์ใช้ตำแหน่งตัวเองยื่นขอประกัน ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว นายเสน่ห์ กล่าวว่าไม่ทราบเรื่องที่ทั้งสองคนสร้างพยานเท็จไปไหนด้วยเพราะความเป็นเพื่อนเท่านั้น



+++นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ด้านการคุ้มครองและมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน พิจารณากรณีเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ร้องเรียนต่อ กสม. ให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ น้องเมย หรือ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ 1 กรณีนี้ผู้ร้องไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง หรือได้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย จึงไม่ครบองค์ประกอบคำร้องตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แต่เนื่องจากที่ประชุมได้พิจารณาเห็นว่ามีประเด็นที่อาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กสม. จึงเห็นสมควร หยิบยก ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิต มอบหมายให้คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองดำเนินการต่อไป



+++เรื่องน้ำมันปาล์ม นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันนี้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รมว.พาณิชย์ ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด เพื่อหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มในสต็อกที่มีสูงถึง 5.19 แสนตัน ซึ่งในเบื้องต้นจะเร่งผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปยังตลาดต่างประเทศ และกระตุ้นให้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น ทูตพาณิชย์ได้ทยอยส่งรายชื่อประเทศ ที่จะผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเสนอเข้ามาที่กระทรวงพาณิชย์แล้ว เช่น จีน อินเดีย และตลาดใหม่ เช่น ยุโรป และตุรกี



+++นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า ราคาผลปาล์ม ณ วันที่ 4 ธ.ค.2560 ผลปาล์มน้ำมัน (18%) กิโลกรัม (กก.) ละ 3.20-3.60 บาท และน้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 19.00-19.25 บาท ขณะที่ ราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซีย (1 ธ.ค.2560)  กก.ละ 19.99 บาท โดยราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มลดลงนับตั้งแต่ ก.พ.เป็นต้นมา เพราะปริมาณผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น ประกอบกับโรงกลั่นมีสต็อกน้ำมันปาล์มเหลือมากกว่าความต้องการใช้ รวมทั้งการใช้น้ำมันปาล์มขวดชะลอตัว  



+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า  กระทรวงการคลังได้เตรียมมาตรการสวัสดิการให้ผู้มีรายได้น้อยระยะที่ 2 ไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบได้ในเดือน ธ.ค.นี้ โดยในบางมาตรการสามารถเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือน ม.ค.2561 เป็นต้นไป เช่น การจัดหางาน การฝึกอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ เข้าถึงแหล่งเงินในระบบ การมีองค์ความรู้เพิ่มขึ้น และความสามารถในการเป็นเจ้าของ ไม่ใช่แค่เป็นลูกจ้างอย่างเดียว สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังจะต้องเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น



+++ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้เกินร้อยละ 4 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และพื้นฐานของไทยเข้มแข็งจากมาตรการดูแลเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลดำเนินการมา แต่ในปีหน้า ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนของโลก และราคาน้ำมันอาจจะปรับตัวสูงขึ้น กรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ระบุว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปี 2561 โดยส่วนตัวคิดว่าเฟดไม่กล้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ถึง 4 ครั้ง เพราะมองว่าอาจทำให้เศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป ทำให้เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยได้ไม่ถึงเท่าที่คาดการณ์ไว้



+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนมกราคม ลดลง 1.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง1.64 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



+++ปัจจัยทางพลังงานฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ปิดในกรอบแคบๆ ขณะที่ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ เผยให้เห็นว่าตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนพ.ย.เติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงดาวโจนส์ ลดลง 39.73 จุด ปิดที่ 24,140.91 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.30 จุด  ปิดที่ 2,629.27 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 14.16 จุด ปิดที่ 6,776.38 จุด  ท่ามกลางความกังวล หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล พร้อมกับเปิดเผยแผนการย้ายสถานทูตสหรัฐฯจากกรุงเทลอาวีฟไปยังเมืองแห่งนี้ด้วย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,266.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++เว็บไซต์ มิร์เรอร์ รายงาน ซาฮาร์ ทาบาร์ สาวอิหร่านวัย 19 ปี ที่กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก หลังเจ้าตัวบอกผ่านอินสตาแกรม ไปทำศัลยกรรมหน้ามาถึง 50 ครั้ง เพื่อหวังให้ใบหน้าเหมือนกับซุปเปอร์สตาร์หญิงชื่อดังฮอลลีวูด แองเจลินา โจลี แต่สุดท้ายใบหน้าของเธอกลับพัง เหมือนในรูปที่เธอนำมาลงทางอินสตาแกรมของเธอที่มีคนฟอลโล่ว์ติดตามนับ 3 แสนรายนั้น ล่าสุด สาวทาบาร์ ยอมรับสารภาพหมดเปลือก แล้วว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก โดยภาพถ่ายที่เหมือนซอมบี้ เธอใช้โปรแกรม โฟโต้ชอป ตกแต่งภาพ และใช้การเมกอัพตกแต่งใบหน้าจนทำให้ภาพถ่ายออกมาเป็นแบบนี้ให้ดูตลกและสนุก เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ซึ่งแฟนๆ ที่ฟอลโลว์เธออินสตาแกรมก็รู้ดีว่าไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงของเธอ ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายจำนวนมากได้สังเกตและพบความผิดปกติที่แบล็กกราวนด์ด้านหลังของรูปถ่ายของทาบาร์ ที่ถูกเบลอ



แฟ้มภาพ 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X