ผู้นำหลายชาติ ร่วมค้านคำสั่งผู้นำสหรัฐรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล

07 ธันวาคม 2560, 07:39น.


เกิดกระแสต่อต้านคำประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่เป็นชาติแรกที่รับรองให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล พร้อมให้ย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ จากกรุงเทลอาวีฟ ไปยังเยรูซาเล็ม โดยมีการชุมนุมเกิดขึ้นทั้งในเยรูซาเล็ม เวสต์แบงค์ และที่ด้านหน้าของสถานทูตสหรัฐในหลายประเทศ เพื่อประณามการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์



สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงมีรับสั่งว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ยั่วยุมุสลิมทุกคนทั่วโลก ด้านนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์แห่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า เธอไม่เห็นด้วยกับประกาศของผู้นำสหรัฐฯ เพราะไม่ได้ช่วยให้เกิดสันติภาพขึ้นในภูมิภาค และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสไม่สนับสนุนคำประกาศนี้ และเรียกร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบ



นางเฟเดริกา มอเกรินี หัวหน้านโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวว่าเธอรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก และล่าสุดสมาชิก 8ใน15 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรียกประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับการตัดสินใจของสหรัฐฯในสุดสัปดาห์นี้



อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ เขาอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาจะขัดขวางกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง แต่ต้องการทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง และสหรัฐฯพร้อมที่จะให้การสนับสนุนนโยบาย 2 รัฐคือการสถาปนารัฐปาเลสไตน์และอิสราเอลควบคู่กัน นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่าการที่สถานทูตสหรัฐฯ ย้ายไปอยู่ที่เยรูซาเล็มจะก่อให้เกิดผลดีต่อสันติภาพตะวันออกกลาง กับเป็นการปฏิบัติตามประกาศที่ออกมาเมื่อปี 2538 ที่ให้ย้ายสถานทูตสหรัฐฯไปเยรูซาเล็ม แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯหลายคนก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นนายบิล คลินตัน นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช และนายบารัค โอบามา ต่างก็ออกคำสั่งประธานาธิบดีเลื่อนการย้ายสถานทูตออกไป เพราะกังวลว่าจะทำให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น เนื่องจากอิสราเอลกับปาเลสไตน์ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของตัวเอง เพราะเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของศาสนายูดาย อิสลามและคริสต์



...



F163

ข่าวทั้งหมด

X