ภาวการณ์เศรษฐกิจและส่งออกไทย นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ประชุม กกร.เห็นว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2560 ขยายตัวสูงกว่าคาด ประกอบกับ การส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังสามารถรักษาแรงส่งของการขยายตัวที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2560 อาจจะขยายตัวโน้มเข้าสู่กรอบบนของประมาณการ กกร.ร้อยละ 3.7-4.0 โดยการส่งออกน่าจะขยายตัวสูงกว่ากรอบประมาณการเดิมร้อยละ 6.5-7.5 หลัง 10 เดือนแรกของปีขยายตัวสูงถึงร้อยละ 9.7 จึงมองว่ามีความเป็นไปได้ที่การส่งออกปี 2560 อาจจะขยายตัวประมาณร้อยละ 9.0 ส่วนปี 2561 คาดว่าการเติบโตเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ 4 และการส่งออกจะมีอัตราเติบโตร้อยละ 6
แม้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะยังไม่เกิดขึ้นอย่างทั่วถึงทุกภาคส่วน สะท้อนได้จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังคงเปราะบาง อย่างไรก็ตาม การที่ภาครัฐกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมออกมาตรการเพิ่มเพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อยหรือเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งการเร่งผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต้นปี 2561 น่าจะช่วยให้การขยายตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะกระจายตัวมากขึ้นในระยะข้างหน้า เบื้องต้น กกร.เห็นว่าปี 2561 เศรษฐกิจไทยน่าจะมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับปี 2560
สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามที่สำคัญ คือ สถานการณ์การเมืองในต่างประเทศ อาทิ ความคืบหน้าของร่างปฏิรูปกฎหมายภาษีของสหรัฐ การสอบสวนกรณีความเชื่อมโยงระหว่างทำเนียบขาวกับรัสเซีย การจัดตั้งรัฐบาลในเยอรมนี การเจรจากรณี BREXIT และความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวในตลาดการเงินโลก รวมทั้งทิศทางค่าเงินบาทให้ยังมีแนวโน้มผันผวนในกรอบที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐที่ขาดแรงหนุนใหม่ ๆ ในระยะอันใกล้นี้ โดย กกร.มีความเป็นห่วงว่า เงินบาทที่แข็งค่าเร็วเกินไปอาจจะไม่เป็นผลดีต่อภาคการค้าระหว่างประเทศในระยะต่อไป โดยค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 31 เดือน แตะ 32.55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน (แข็งค่าแล้วร้อยละ 9.7 จากปลายปีก่อน) เนื่องจากเงินดอลลาร์ถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายภาษีของสหรัฐ
สำหรับ การปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ กกร.เห็นว่าหลาย ๆ คนเป็นที่ยอมรับของภาคเอกชน เพราะทุกคนมีความรู้ ความสามารถ ซึ่งเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการ คือ สานต่อนโยบายการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้มีความต่อเนื่องและเป็นไปตามแผนของรัฐบาลที่กำหนดให้นำไปสู่ประเทศ 4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี