วันนี้ นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ คนใหม่ถือเอาวันดี วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 วันพ่อแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันมงคล จึงขอนำพระองค์เป็นหลักชัยในการเข้าทำงาน ถือเป็นวันมงคล ให้ทำงานอย่างประสบความสำเร็จราบรื่น โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ข้าราชการและบุคลากรให้การต้อนรับ
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต้อนรับ ว่าหลายคนสงสัยว่าทำไม ศธ.มี “หมอ” มาเป็นรัฐมนตรี อีกคน แต่จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวว่าจะเป็นหมอ หรือเป็นทหาร นพ.อุดม เป็นหมอที่อยู่ในวงการศึกษามานาน จนเป็นที่ยอมรับ และครั้งนี้จะมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนโยบายรัฐบาล ซึ่ง นพ.อุดม ไม่ได้มาทำงานด้านอุดมศึกษาอย่างเดียว แต่จะเข้ามาช่วยดูแลการศึกษาทั้งระบบ ไม่ว่าจะอย่างไรในอีก 1 ปี รัฐบาล และคณะรัฐมนตรีก็ต้องไป จากนี้อยากให้บรรยากาศการทำงานอบอุ่นเช่นนี้ตลอดไป ช่วยวางแนวทางไว้ หากแนวทางเราดี นักการเมืองที่จะเข้ามาเขาก็ต้องทำตามที่เราวางไว้ ข้าราชการจะได้ไม่ต้องรับแรงกดดันทางการเมืองโดยไม่จำเป็น
ด้าน นพ.อุดม กล่าวว่า ตนเป็นแพทย์ ก็จริงแต่ช่วงหลังได้มาทำงานด้านการศึกษาเป็นส่วนใหญ่ ตนคิดว่า ศธ.เป็นกระทรวงที่สำคัญเพราะเป็นอนาคตของชาติ ถ้า ศธ.ไม่สามารถปรับตัวเอง ขับเคลื่อนงานต่าง ๆ ให้สำเร็จ ประเทศเราไม่มีทางพัฒนา เพราะการศึกษาเป็นพื้นฐานของการพัฒนาทุกอย่าง ดังนั้น การปฏิรูปการศึกษาทุกระดับตั้งแต่ก่อนอุดมศึกษา จนถึงอุดมศึกษาต้องเชื่อมโยงทั้งระบบ จากนี้ต้องมีการบูรณาการกันจริง ๆ โดยนำยุทธศาสตร์ประเทศมาเป็นเป้าหมายหลัก เพราะเชื่อว่าคนไทยไม่ได้เก่งน้อยกว่าชาติอื่น เพียงแต่ระบบการศึกษาไม่ได้จัดให้เอื้ออำนวยให้คนเหล่านั้นเก่งและดีได้ นอกจากเรื่องอุดมศึกษาแล้ว ยังได้รับมอบหมายให้ลงไปแก้ปัญหาระบบอินเตอร์เน็ตใน 3หมื่นโรงเรียน ให้สามารถใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างราบรื่น
สำหรับนโยบายที่อยากผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมในช่วง 1ปี ที่อยู่ในตำแหน่ง อย่างแรกคือผลักดันให้เกิดกระทรวงการอุดมศึกษา ซึ่งได้หารือกับคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ที่มี นพ.จรัส สุวรรณเวลา เป็นประธานเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดต่าง ๆ ที่ได้รับข้อเสนอมาทางคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา คาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอิสระฯ ในวันที่ 12ธันวาคม นี้ หากคณะกรรมการอิสระฯ ให้ความเห็นชอบจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล ก่อนเข้ากระบวนการนิติบัญญัติคาดว่าจะใช้เวลา 8-9เดือน ก็จะมีผลบังคับใช้และเกิดเป็นกระทรวงการอุดมศึกษา ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง