ประธานกรธ.ร้อนใจไปกับพรรคการเมือง คสช.ยังไม่ปลดล็อกทางการเมือง

กรณีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดให้พรรคการเมืองต้องอัพเดทสมาชิกพรรคการเมืองภายใน 90 วัน ที่จะครบในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ แต่ยังไม่มีการปลดล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมือง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เปิดเผยว่า ร้อนใจไปกับพรรคการเมือง แต่ถ้าหากมีความจำเป็นก็สามารถแก้ไขกฎหมายได้ ไม่มีอะไรตายตัว แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จะทำอย่างไร คงต้องไปถามหัวหน้าคสช. การปลดล็อกพรรคการเมืองจำเป็นต้องรอให้กฎหมายลูกออกมาทุกฉบับก่อนหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า กฎหมายลูกมีหลายฉบับ กฎหมายอะไรออกมาใช้บังคับแล้วสามารถปฏิบัติได้ไม่ต้องรอให้ครบทุกฉบับ อะไรที่ทำได้ก็สามารถทำได้เลย กรณี คสช.ยังไม่ปลดล็อกจะกระทบกับพรรคการเมืองที่ไม่ได้ทำตามกฎหมายลูกหรือไม่ นายมีชัย ตอบว่า มันคนละส่วนกัน เพราะอำนาจมาคนละทางกัน ที่จริงแล้ววันนี้พรรคการเมืองสามารถทำอะไรได้อยู่ เช่น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมาชิก ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าการที่คสช.ยังไม่ปลดล็อกทำให้ขัดกับกฎหมายลูกที่บังคับใช้แล้ว คงต้องไปตามคสช. ส่วนข้อคำถามที่ว่า เท่ากับว่าคสช.กำลังทำผิดกฎหมายอยู่หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ไม่ผิด เพราะคสช.เขามีอำนาจของเขาอีกทางหนึ่ง

กรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีข้อเห็นต่างเกี่ยวกับการเลือกไขว้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไม่สามารถป้องกันการทุจริตได้ นายมีชัย กล่าวว่า หากสนช.คิดระบบอะไรใหม่ได้ ก็ให้บอกมาว่าจะใช้วิธีอะไร ที่สามารถป้องกันได้จริง ซึ่งอาจจะมีวิธีการที่ดีกว่าที่เราเสนอไปก็ได้

นายมีชัย กล่าวถึง ภาพรวมของรัฐธรรมนูญตอนหนึ่ง ในโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยให้แก่สื่อมวลชน ว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในทุกมุมของประเทศ เพื่อให้เป็นกฎกติกาของสังคม จึงจำเป็นที่จะต้องมีความเข้าใจในรายละเอียด โดยเฉพาะในยุคที่สังคมให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม โครงการนี้จึงจัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในทุกเรื่อง เพื่อไม่ให้เข้าใจว่ากรธ.พยายามหมดเม็ดบางประเด็น หากมาพบเจอในภายหลัง ทั้งนี้ ในส่วนตัวเขียนกฎหมายมาหลายฉบับ แต่ไม่เคยมีโผยกเว้นเขียนรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้และจำเป็นต้องทำอย่างเข้มงวด เพราะตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 35 กำหนดสิ่งที่รัฐธรรมนูญจะต้องมีไว้ 10 ประการ เช่น กลไกการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กลไกกำกับควบคุมการใช้อำนาจให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีหลายเรื่องที่เขียนขึ้นใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราวเป็นผู้กำหนดไว้ ทั้งนี้ มีบางเรื่องที่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ แต่ก็เพื่อให้กลไก 10 ประการเกิดความชัดเจนและเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ  

นายมีชัย กล่าวว่า จุดสำคัญจุดหนึ่งคือประเทศไทยเจริญขึ้นเป็นลำดับ แต่คนในประเทศรู้สึกอัดอัด เพราะความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งกรธ.คิดว่ามาจาก 2 สาเหตุ คือ 1.ประชาชนยังขาดวินัย และ 2 การบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มงวด ดังนั้น จึงให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษา สร้างคนให้มีวินัย มีจิตเผื่อแผ่ตั้งแต่เด็ก โดยกำหนดให้รัฐต้องจัดการศึกษาตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการปฏิรูปตำรวจ ที่กำหนดให้ทำแล้วเสร็จภายใน 1 ปี ถ้าไม่สำเร็จการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจต้องยึดระบบอาวุโส อย่างไรก็ตาม กรรมการท่านหนึ่งในคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กำลังเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าการขึ้นเงินเดือนให้ตำรวจถือว่าได้ทำงานปฏิรูปตำรวจเสร็จ ซึ่งคิดว่าเขาเข้าใจผิด เพราะในรัฐธรรมนูญเขียนเป้าหมายไว้ชัดเจน โดยกรธ.กำลังเฝ้ามองว่าจะมีคนโต้แย้งว่าการปฏิรูปตำรวจยังไม่ใช่สิ่งที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

นายมีชัย กล่าวว่า อาจเกิดกรณีประชาชนออกมาโต้แย้งว่าการปฏิรูปที่ดำเนินการอยู่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งจะกลายเป็นปฏิรูปไม่เสร็จ ทางออก คือให้การแต่งตั้งเป็นไปตามระบบอาวุโสไปก่อนซึ่งอาจเป็นทางที่ดี ทั้งนี้ หน่วยงานที่จะเป็นผู้ชี้ขาดว่าการปฏิรูปเป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ คือศาลรัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า โครงสร้างคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจของพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเพียงแต่การพิจารณาประเด็นการปฏิรูปบางเรื่องยังไม่ลงรอยกัน ขณะนี้ก็ยังเร็วเกินไปที่จะวิจารณ์การทำงานของคณะกรรมการฯ ต้องรอให้ทำแผนเสร็จสิ้นก่อนจึงจะบอกได้ว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์หรือไม่

แฟ้มภาพ