ปภ.เร่งระบายน้ำท่วมหนักใน 8 จังหวัดใต้

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 25 – 29 พ.ย. นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี สงขลา นราธิวาส ยะลา สตูล และสุราษฎร์ธานี รวม 74 อำเภอ 396 ตำบล 2,540 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 113,900 ครัวเรือน 385,498 คน เสียชีวิต 5 ศพ 

ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยใน 8 จังหวัด ประกอบด้วย ลุ่มน้ำปัตตานี 2 จังหวัดได้แก่ 1.ปัตตานี เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ เช่น  อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก อ.ยะรัง ผู้เสียชีวิต 2 ศพ 2.ยะลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ เช่นที่ อ.เมืองยะลา อ.ยะหา ผู้เสียชีวิต 1 ศพ  ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 2 จังหวัด ได้แก่ 3.สงขลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 10 อำเภอ เช่น อ.เทพา อ.นาหม่อม อ.สทิงพระ  เสียชีวิต 2 ศพ 4.พัทลุง เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ เช่น อ.เมืองพัทลุง อ.ควนขนุน อ.ศรีบรรพต ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ 5.ตรัง เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ เช่น อ.เมืองตรัง อ.ห้วยยอด อ.นาโยง ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ 6.นราธิวาส น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 13 อำเภอ เช่น อ.เมืองนราธิวาส อ.จะแนะ อ.เจาะไอร้อง 7.นครศรีธรรมราช น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ชะอวด อ.บางขัน อ.หัวไทร ลุ่มน้ำตาปี 1 จังหวัด ได้แก่ 8.สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ เช่น อ.บ้านนาสาร อ.พระแสง อ.ชัยบุรี

ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานจังหวัดจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ตามแผนเผชิญเหตุ รวมถึงให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ทั้งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

CR:FBกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย