*ญาติสาวลาวตกตึก ร้องคุณหญิงหมอพรทิพย์ช่วย หลังสงสัยไม่ได้ฆ่าตัวตาย*

คดีการเสียชีวิตของสาวลาว ล่าสุด  นายสุทัศน์เงินหมื่น กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยตัวแทนสถานทูตลาวประจำประเทศไทย นางพอน ชุมพลภักดี นายทานตะวัน ไซวง และ น.ส.เวียงสมร ชุมพลภักดี แม่ พ่อและพี่สาว ของ น.ส.ต่าย ดาวเฮือง หรือน้องแป้งอายุ 18 ปี สาวลาวที่ผลัดตกระเบียงอพาร์ทเมนต์ย่านแยกเหม่งเสียชีวิต เดินทางเข้าพบ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังมีสงสัยการสรุปสาเหตุเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า เบื้องต้นนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เองเพราะไม่มีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ แต่จะหารือเพื่อหาช่องทางช่วยเหลือโดยอาจประสานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้ช่วยเหลือ โดยจะต้องเข้าไปตรวจสอบว่ามีการเก็บพยานหลักฐานบกพร่องในส่วนใดหรือไม่รวมถึงเข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนของพยานหลักฐานแวดล้อม โดยเฉพาะการจำลองเหตุการณ์ในห้องที่เกิดเหตุแต่เนื่องจากห้องดังกล่าวเป็นห้องของบุคคลอื่นไม่ใช่ของผู้เสียชีวิตทำให้ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้อง แต่เบื้องต้นเท่าที่ตรวจดูหลักฐานภาพถ่ายที่ทำให้ญาติติดใจเรื่องการเสียชีวิตคือรูปถ่ายรอยช้ำที่แขนซ้ายในทางนิติวิทยาศาสตร์สันนิษฐานได้ว่าเป็นรอยนิ้วมือแน่นอนเพราะมีลักษณะเป็นรอยกลม

ด้านนายสุทัศน์ กล่าวว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ระดับผู้ใหญ่ และสถานทูตลาวให้ความสนใจมากและติดใจปมการเสียชีวิต เนื่องจากมีหลายประเด็นที่สงสัยทั้งกรณีที่ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่เป็นสามี-ภรรยาพร้อมกันไม่แยกการสอบถือเป็นเรื่องผิดปกติการไม่เรียกสอบพยานเพิ่มเติมหรือกระทั่งการชี้แจงของนิติเวชตำรวจที่ไม่ชัดเจน ประกอบกับญาติมีภาพถ่ายรอยช้ำที่แขนของน้องแป้งซึ่งยังติดใจว่าอาจถูกฆาตกรรมไม่ใช่การฆ่าตัวตาย ที่ผ่านมาตำรวจยังไม่เคยมีการตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องสงสัย ทำให้ญาติต้องเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเองฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ขณะที่ น.ส.เวียงสมร พี่สาวน้องแป้ง กล่าวว่าต้องการขอความเป็นธรรมเพื่อพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตให้ชัด ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ฆ่าน้องตัวเองหรือไม่ ส่วนนางพอนแม่น้องแป้ง เปิดเผยว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่าคดีนี้ไม่ใช่การฆ่าตัวตายเพราะก่อนหน้าน้องแป้งเสียชีวิตเคยโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่าถูกข่มขู่จากผู้หญิงที่ทำงานที่เดียวกันถือเป็นการติดต่อกันครั้งสุดท้ายก่อนที่น้องแป้งจะเสียชีวิต.