ทรัมป์ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออีก/ผตห.ชนคนในแมนฮัตตัน ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา/ควันภูเขาไฟอินโดฯเปลี่ยนทิศทาง

30 พฤศจิกายน 2560, 05:51น.


ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.



+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ประกาศในวันพุธ จะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่เล่นงานเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้กรณีการทดสอบขีปนาวุธหนล่าสุดของเปียงยางหลังได้หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในเรื่องเกี่ยวกับการกระทำยั่วยุของเกาหลีเหนือ" ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์ "มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่เพิ่มเติมจะถูกกำหนดเล่นงานเกาหลีเหนือในวันนี้ สถานการณ์นี้จะต้องถูกจัดการ!"  ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีกำหนดประชุมฉุกเฉินในวันพุธเพื่อหารือถึงแนวทางตอบโต้การยิงขีปนาวุธล่าสุดของเกาหลีเหนือ



+++ปฎิกิริยาจากประเทศต่างๆ นายซิกมาร์ กาเบรียล รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีประณามอย่างยิ่งต่อกรณีที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธล่าสุด และจะเรียกพบเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอีกครั้งแล้ว ด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียขอประณามการยิงขีปนาวุธครั้งนี้และหวังว่าทุกฝ่ายจะอยู่ในความสงบ ซึ่งจำเป็นต้องรักษาสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีไว้ไม่ให้ตกอยู่ในภาวะเลวร้าย



+++นายเซฟุลเลาะห์ ไซปอฟ ผู้ถูกกล่าวหาเจตนาขับรถพุ่งชนผู้คนในย่านแมนฮัตตัน นิวยอร์คเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ถูกนำตัวขึ้นศาลสหพันธ์ เพื่อรับการไต่สวนพิจารณาคดี แต่เขาให้การปฏิเสธในคดีฆาตกรรมและก่อการร้าย ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายไซปอฟขับรถยนต์พุ่งชนนักจักรยานและคนเดินถนนที่อยู่ในช่องรถจักรยาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 รายและบาดเจ็บอีก 12 คน เขาถูกควบคุมได้ทันทีในที่เกิดเหตุเพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงสกัด



+++นายไซปอฟ ย้ายจากอุซเบกิสถานมาอยู่สหรัฐฯ ในปี 2553 เขาถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด 22 ข้อหาทั้งฆาตกรรมและก่อการร้าย สนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ซึ่งเป็นคดีที่มีโทษหนักและอาจทำให้ถูกประหารชีวิต เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่สร้างสูญเสียมากที่สุดนับจากเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 อย่างไรก็ตามในการขึ้นศาลวันนี้ ทนายความที่ศาลแต่งตั้งเป็นผู้แถลงต่อศาล และกล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหา ส่วนอัยการยังไม่ได้ยื่นคำร้องเกี่ยวกับบทลงโทษนายไซปอฟ



++++สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเรียกร้องวันนี้ให้พระสงฆ์ในเมียนมาช่วยกันแก้ไขปัญหาอคติและความเกลียดชังกัน ซึ่งเป็นความพยายามใช้ถ้อยคำที่ระมัดระวังเพื่อขอร้องพระสงฆ์ที่มีบทบาทสำคัญในเมียนมา ท่ามกลางวิกฤติปราบปรามชาวมุสลิมโรฮิงญา  ประมุขแห่งคาทอลิกกำหนดเยือนเมียนมาเป็นเวลา 4 วัน



ราคาน้ำมันปรับลดเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลหารือมาตรการลดกำลังผลิต สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนมกราคม ลดลง 69 เซนต์ ปิดที่ 57.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 63.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(29พ.ย.) ปิดผสมผสาน โดยดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 2 วันติด จากข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกาที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่แนสแดคถูกฉุดจากกลุ่มเทคโนโลยีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 103.97 จุด ปิดที่ 23,940.68 จุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศในช่วงไตรมาส 3 ขยายตัว ร้อยละ3.3 ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสเดียวกันของปี 2014 และดีกว่าคาดหมายไว้ในเบื้องต้น



+++ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(29พ.ย.) ร่วงหนัก อุปสงค์ทรัพย์สินเสี่ยงต่ำลดลง หลังพบเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งเกินคาดหมาย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 12.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,286.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++หลังภูเขาไฟอากุงระเบิดพ่นเถ้าถ่านปกคลุมท้องฟ้า จนเป็นอุปสรรคต่อการบิน ล่าสุด ท่าอากาศยานนานาชาติงูระไรห์ เปิดให้บริการเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ตลอดช่วงเช้าพบว่ากลุ่มควันหนาทึบที่พวยพุ่งขึ้นจากปากปล่องภูเขาไฟอากุงเป็นระยะทางสูงเกือบ 4,000 เมตร เริ่มมีการเปลี่ยนทิศทางซึ่งเป็นผลจากกระแสลม

แต่เจ้าหน้าที่ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเฉพาะปริมาณเถ้าถ่านที่ปกคลุมบนรันเวย์ ที่เสี่ยงทำให้เครื่องบินลื่นไถลบนรันเวย์ และอาจปลิวเข้าไปในเครื่องยนต์หรือใบพัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะมีสายการบินใดบ้างสามารถกลับมาให้บริการได้อย่างทันที เนื่องจากสายการบินส่วนใหญ่ยกเลิกเที่ยวบินล่วงหน้าจนถึงวันพฤหัสบดีนี้เป็นอย่างน้อย



+++ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสสหรัฐฯ ยกเลิกนัดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เนื่องจากผู้นำสหรัฐทวีตข้อความโจมตีเดโมแครต โดยระบุว่าเขาไม่คิดว่าจะสามารถทำความตกลงกับนางแนนซี เปโลซี และนายชัค ชูเมอร์ เกี่ยวกับกฏหมายงบประมาณได้ เมื่อวานนี้คณะกรรมาธิการงบประมาณของวุฒิสภาผ่านความเห็นชอบกฏหมายภาษีด้วยคะแนนเสียงเฉียดฉิว 12-11 เสียง และจะต้องขอมติจากวุฒิสภาอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อมั่นว่าจะผ่านความเห็นชอบ แต่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณแบบที่เรียกว่าแพคเกจรายจ่าย 1 ปีเพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณมากพอที่จะดำเนินงานไปจนถึงวันที่ 8 ธันวาคม ซึ่งเดโมแครตต้องการเจรจากับฝ่ายรีพับลิกันก่อนออกเสียง เพราะต้องการให้รีพับลิกันเดินหน้าโครงการบางอย่างของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่เป็นฝ่ายเดโมเครตไว้



+++นักวิจัยเรื่องความปลอดภัยคอมพิวเตอร์คาดว่า นักเจาะระบบหรือแฮกเกอร์จะสร้างความเสียหนักขึ้นในปีหน้า หลังจากปีนี้ได้ปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่หรือแรนซัมแวร์สร้างความโกลาหลหลายตัวขณะเดียวกันแฮกเกอร์อาจจะเล็งเป้าหมายที่เป็นผู้มีฐานะดี หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีระบบรักษาความปลอดภัยน้อยกว่าคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน นอกจากนี้อาจมีการจ้างให้แฮกเกอร์โจมตีไซเบอร์ในวงกว้างเพื่อให้การโจมตีมีผลอย่างสำคัญ เช่น ทำให้คู่แข่งทางการเมืองหรือคู่แข่งทางธุรกิจตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถทำอะไรได้ หรือทำให้เกิดภาวะอัมพาตในระดับประเทศ ขณะที่ความเป็นส่วนตัวของผู้คนก็ยิ่งลดหายลงไปอีก เพราะข้อมูลต่าง ๆ ของผู้บริโภครวมถึงข้อมูลของเด็กจะถูกผู้ผลิตอุปกรณ์เชื่อมต่อภายในบ้านและผู้ให้บริการรวบรวมไปใช้ทางการตลาดโดยไม่ได้ขอความยินยอมก่อน ทำให้บ้านกลายเป็นหน้าร้านของธุรกิจ ดังนั้นผู้ปกครองจะต้องระวังไม่ให้ข้อมูลดิจิทัลของเด็ก ๆ ถูกธุรกิจนำไปแสวงหากำไร

ข่าวทั้งหมด

X