เกาหลีใต้ยิงขีปนาวุธตอบโต้เกาหลีเหนือ/สมเด็จพระสันตะปาปาเยือนเมียนมา/เจ้าชายแฮรี่แต่งงานดาราสาวอเมริกัน พ.ค.ปีหน้า

ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.

+++เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธตกภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่นในวันพุธ(29พ.ย.) ถือเป็นการทดสอบครั้งแรกของของเกาหลีเหนือนับตั้งแต่ยิงจรวดข้ามเพื่อนบ้านแห่งนี้เมื่อเดือนกันยายน  การยิงทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้มีขึ้น 1 สัปดาห์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ใส่ชื่อเกาหลีเหนือกลับเข้าไปในบัญชีดำประเทศสนับสนุนก่อการร้าย การขึ้นแบล็คลิสต์ที่เปิดทางให้สหรัฐฯกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม แม้ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเตือนว่ามันเสี่ยงโหมกระพือความตึงเครียดกับเปียงยางก็ตาม คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุในวันพุธ(29พ.ย.) ว่าขีปนาวุธถูกยิงออกจากเมืองเปียงซง ในจังหวัดพยองอันใต้ ตอนเวลา 18.17จีเอ็มที(ตรงกับเมืองไทย 01.17น.) เหนือทะเลระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ส่วนทางกองทัพโสมขาวเสริมว่าขีปนาวุธพุ่งในวิถีโด่งแตะระดับความสูง 4,500 กิโลเมตรและพุ่งเป็นระยะทางราว 960 กิโลเมตร

กองทัพเกาหลีใต้เผยด้วยว่าขีปนาวุธพุ่งไปทางตะวันออกและทางกองทัพกำลังวิเคราะห์รายละเอียดการยิงจรวดของเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ พร้อมระบุว่าไม่กี่นาทีหลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธออกมา ทางกองทัพเกาหลีใต้ก็ดำเนินการทดสอบยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งตอบโต้ทันควัน

+++รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นระบุว่าขีปนาวุธแตะระดับความสูง 4,000 กิโลเมตรและแตกออก ก่อนตกลงสู่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่น สอดคล้องกับรายงานของหนังสือพิมพ์อาซาฮีที่อ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุขีปนาวุธไม่ได้พุ่งข้ามญี่ปุ่น และมันตกในทะเลญี่ปุ่นหรือคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดนิวศ์อ้างเจ้าหน้าที่กลาโหมบอกว่าไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ ทำเนียบขาวเผยว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯเรียกรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์

+++สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงเลี่ยงใช้คำเรียกชนกลุ่มน้อยที่ถูกปราบปรามในเมียนมา ระหว่างการมีพระราชดำรัสครั้งสำคัญในวันนี้ หลังการพบปะกับนางอองซาน ซูจี ผู้นำสูงสุดของเมียนมา โดยโป๊ปฟรานซิสทรงขอให้มีการสร้างความปรองดองและเคารพสิทธิของชนกลุ่มน้อยและอัตลักษณ์ของพวกเขา แต่ไม่ทรงเรียกชื่อชนกลุ่มนั้นว่าชาวโรฮิงญาและไม่ได้เอ่ยถึงชะตากรรมของพวกเขา ขณะประทับยืนคู่กับนางซูจีในทำเนียบรัฐบาลเมียนมาในกรุงเนปีดอว์ โป๊ปทรงมีพระราชดำรัสโดยใช้ถ้อยคำที่มีความหมายทั่วๆไป โป๊ปฟรานซิสไม่ได้พูดถึงประเด็นเรื่องข้อกล่าวหาเรื่องการจำกัดคนกลุ่มน้อยให้หมดไปจากประเทศ แต่ระบุว่าศาสนามีบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤติ ระบุว่ากระบวนการสร้างสันติภาพและความปรองดองแห่งชาติจะเดินหน้าไปได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามกฏหมายและเคารพสิทธิมนุษยชน

+++ด้านนางซูจีพูดเรื่องนี้ในประเด็นกว้างๆ แม้ว่าเธอจะเอ่ยถึงสถานที่เกิดปัญหาวิกฤติโดยระบุชื่อคือรัฐยะไข่ ระบุว่าตราบเท่าที่เราแก้ไขปัญหาต่างๆที่ยืดเยื้อมานาน ทั้งปัญหาสังคม,เศรษฐกิจและการเมือง ย่อมจะกระทบต่อไว้วางใจ ความเข้าใจ ความปรองดองและความร่วมมือกันระหว่างชุมชนที่แตกต่างกันในรัฐยะไข่ การสนับสนุนให้กำลังใจรัฐบาลเมียนมาทั้งจากพลเมืองในประเทศและมิตรประเทศซึ่งต้องการให้รัฐบาลเมียนมาแก้ไขปัญหานี้ได้สำเร็จนับว่าเป็นข้อเสนอแนะที่ไม่อาจจะประเมินมูลค่าได้

+++นายสตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ผู้ไกล่เกลี่ยในเรื่องปัญหาซีเรียของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ว่าการเจรจาสันติภาพซีเรียในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ ส่อเค้าว่าอาจจะไม่มีอะไรคืบหน้ามากไปกว่าการเจรจาที่ล้มเหลวมาตลอด 7 ครั้งที่ผ่านมา หลังประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรียผลักดันจนกระทั่งกองทัพซีเรียมีชัยชนะเหนือฝ่ายต่อต้านทั้งหมด แต่ฝ่ายต่อต้านยังคงยืนกรานอยู่กับข้อเรียกร้องที่ว่า นายอัสซาดจะต้องลาออก ก่อน เริ่มต้นการเจรจาเรื่องจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลของซีเรียภายใต้ข้อตกลงสันติภาพที่จะมีขึ้นในอนาคต สำหรับสงครามกลางเมืองในซีเรีย ขณะนี้เข้าสู่ปีที่ 7 แล้ว มีคนเสียชีวิตหลายแสนศพและก่อให้เกิดปัญหาวิกฤติผู้อพยพครั้งร้ายแรงที่สุดในโลก ประชาชน 11 ล้านคนต้องละทิ้งถิ่นฐาน

+++ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลงจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงลดผลิตระหว่างโอเปกกับชาติผู้ส่งออก

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนมกราคม ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 57.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 23 เซ็นต์ ปิดที่ 63.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(28พ.ย.) แตะระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง จากแรงหนุนของกลุ่มภาคธนาคารและความก้าวหน้าของร่างกฎหมายปรับลดภาษี เช่นเดียวกับข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคแตะระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทะยานขึ้น สู่ระดับ 129.5 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี2000

+++ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 255.93 จุด ปิดที่ 23,836.71 จุด ส่วนมาตรการปรับลดภาษีผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการวุฒิสภา ส่วนราคาทองคำทำสถิติสูงสุดตลอดกาล โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ ปิดที่ 1,299.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++เจ้าชายแฮร์รีและพระคู่หมั้น เมแกน มาร์เคิล ดาราสาวชาวอเมริกัน จะเข้าพิธีเสกสมรส ที่โบสถ์เซนต์จอร์จ ในพระราชวังวินด์เซอร์ ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ พระอัยกี พระชนมายุ 91 พรรษาของเจ้าชายแฮร์รี จะทรวงเสด็จพระราชดำเนินเข้าร่วมพิธีเสกสมรสในปีหน้าด้วยก่อนจะแต่งงาน ดาราสาวมาร์เคิล จะเข้าพิธีบัพติศมาและรับการยืนยัน ก่อนถึงพิธีเสกสมรส รวมถึงยังมีความตั้งใจที่จะเป็นพลเมืองของสหราชอาณาจักร แม้ว่าเธอจะยังคงถือสถานะความเป็นพลเมืองอเมริกา ระหว่างกระบวนการดังกล่าว

+++จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี/เอดส์รายใหม่ในยุโรปเพิ่มมากขึ้นจนถึงระดับสูงสุดในปี 2559 นับตั้งแต่บันทึกสถิติมา เรียกว่าเป็นอัตราการแพร่ระบาดที่น่าตกใจอย่างยิ่ง  องค์การอนามัยโลกภูมิภาคยุโรปแถลงในรายงานร่วมกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในยุโรปว่า ปี 2559 มีผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีสาเหตุของโรคเอดส์ราว 160,000 คนใน 53 ประเทศ โดยร้อยละ 80 อยู่ในยุโรปตะวันออกครั้งนี้นับเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุดรายปีตั้งแต่บันทึกสถิติมา และหากแนวโน้มยังเพิ่มสูงขึ้นจะทำให้โลกไม่สามารถทำตามเป้าหมายยับยั้งการระบาดของเชื้อเอชไอวีได้ภายในปี 2573  ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนมากได้รับเชื้อเอชไอวีมาหลายปีแล้วก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยโรค จึงทำให้เชื้อไวรัสแพร่ไปสู่ผู้อื่นและควบคุมยาก  การได้รับวินิจฉัยโรคแต่เนิ่นๆมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ติดเชื้อจะได้รับยาต้านเอดส์เร็วขึ้น จึงมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าและสุขภาพดีกว่า องค์การอนามัยโลกภาคพื้นยุโรปประกอบด้วย 53 ประเทศ ที่มีประชากรรวมกันเกือบ 900 ล้านคน .