นายกฯแจงปรับครม. ไม่ได้ดิวพรรคการเมือง ไม่สนปชป.เพื่อไทยจับมือกัน

การปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.)กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในครั้งนี้ที่มีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยเข้ามาร่วม ว่า ไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนจากพรรคไหน เพราะวันนี้ไม่มีพรรค พามาทำไม่ดีก็กลับไปพักผ่อน เป้าหมายของผมคือต้องการทำให้กับประชาชน  ไม่ได้มองหรือดิวการเมืองกับใคร เพราะไม่ใช่นักการเมือง ไม่ดิวกับใครทั้งสิ้น คาดหวังว่าจะดีขึ้น ซึ่งเดิมก็ดีอยู่แล้วไม่ได้มีความเสียหายอะไร ทั้งนี้การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่มีใครถูกใจทั้งหมด

ส่วนที่มีการปรับตำแหน่งของพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ออกจากตำแหน่ง รมช.กลาโหมนั้น ที่ผ่านมาพล.อ.อุดมเดช ก็ทำงานร่วมกับตนถึง 3 ปีแล้ว ขณะเดียวกันวันนี้ พล.อ.อุดมเดชก็ยังอยู่ใน คสช. สิ่งสำคัญวันนี้ตนกำลังเน้นไปสู่เรื่องของความปรองดอง ก็มอบหมายให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาดูเรื่องของความปรองดอง เป็นหัวหน้าคณะเรื่องความปรองดองในเรื่อง ของการปฏิรูป นอกจากนี้ในเรื่องของภาคใต้ ในส่วนของ คปต.ส่วนหน้า วันนี้ได้หารือกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไปแล้วว่า จะมอบหมายให้ พล.อ.สุรเชษฐ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการซึ่งลงพื้นที่ทำงานในภาคใต้อยู่แล้วรับผิดชอบ

ส่วนการปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น ยืนยันอีกครั้งว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี อดีตรมว.เกษตรฯ ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย  แต่สิ่งที่มีความจำเป็นวันนี้คือเราจะต้องเพิ่มเติมในระยะที่ 2 และอยากได้คนใหม่มาทำงานบ้างขณะเดียวกันนโยบายเดิมที่ทำไว้ก็ต้องทำต่อไปซึ่งเราทำในเชิงโครงสร้างของกรอบใหญ่ไปแล้ว

ส่วน 2 พรรคใหญ่ อย่างประชาธิปัตย์กับ เพื่อไทยบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะจับมือกันทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ไม่สนใจว่าใครจะร่วมกับใครก็เชิญ ไม่เกี่ยวข้องเพราะผมจะทำงานให้ประเทศของผม เรื่องอื่นค่อยว่ากัน ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ติงผู้สื่อข่าวหลังให้ตั้งคำถามต่อ แต่กลับไม่มีคำถามใดๆ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตกลงผมต้องยอมสื่อทั้งหมดหรือ ไม่ให้สัมภาษณ์ก็ไม่ได้ พอจะให้สัมภาษณ์ต่อก็บอกว่าเดี๋ยวข่าวออกไม่ทัน สรุปหากินกับผมอย่างเดียว แล้วไม่สงสารผมบ้างหรือที่พูดจนเหนื่อย แล้วทีเมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย. ก็ออกข่าวกันเสียงแจ๋วๆว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน มีเจตนาอย่างไรผมไม่รู้ ขอให้กลับไปคิดมาใหม่