หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จ.สงขลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาว่า รัฐบาลทราบอยู่แล้วว่ามีการชุมนุมมาหลายวัน ตามที่จริงแล้วจะว่ารัฐบาลละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ได้ เพราะกฎหมายมีอยู่ในเรื่องของการชุมนุมใดๆก็ตาม ไม่ใช่เฉพาะคำสั่งคสช.เท่านั้น ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป และเป็นการชุมนุมทางการเมืองด้วย แต่การยื่นข้อเสนอว่าขอพบนายกฯเพื่อส่งเอกสาร ถามว่าเจตนาคืออะไร ถ้าเขามาก็เจอต่อหน้าสื่อ ก็จะทำให้เกิดปัญหาบานปลายไปเรื่อยๆ สิ่งสำคัญรัฐบาลพยามยามผ่อนผันการบังคับใช้กฎหมายมาตลอด เพราะเห็นว่าเป็นประชาชน อย่างที่กล่าวอ้างกันมา แต่ท้ายที่สุดแล้ว มีการใช้กำลังกับเจ้าหน้าที่ อันนี้ทุกคนรวมถึงสื่อต้องเข้าใจ ถ้าปล่อยไปอย่างนี้อีกหน่อยก็มีปัญหาหมดทุกที่ การใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ ถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า และยังไม่ได้เอาความผิดเรื่องการชุมนุมเลย ขณะที่ถูกดำเนินคดีอยู่คือความผิดซึ่งหน้า เป็นการทำร้ายเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นตัวอย่างว่าจะไปทำกับคนอื่นอย่างนี้ไม่ได้ เพราะช่องทางในการรับฟัง รัฐบาลนี้และผมรับฟังมากกว่าทุกรัฐบาลอยู่แล้ว ก็ขอให้ลดความขัดแย้งนี้ลงไป
สำหรับเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน นายกรัฐมนตรีกล่าววว่า อยู่ขั้นตอนของการผ่านการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) 3-4 ครั้งแล้ว และยังไม่เข้าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นทางเราให้นโยบายไปแล้วเรื่องนี้ต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อน และหากการทำอีไอเอยังไม่สมบูรณ์ และมีปัญหาข้อเรียกร้องอยู่ก็ต้องไปทำกันใหม่ ถึงเข้าไปสู่การตัดสินใจ ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะสร้างหรือไม่สร้างเลย จึงขอให้ทุกคนเข้าใจในระบบการบริหารจัดการภาครัฐที่มีมากมาให้ดีด้วย ไม่ใช่ทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับใคร โดยเฉพาะกับรัฐบาลนี้ระมัดระวังเรื่องข้อกฎหมายเต็มที่ ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และตำรวจด้วย ขอฝากทำความเข้าใจด้วย หลายคนบอกละเมิดสิทธิมนุษยชน ขอย้ำว่า เส้นแบ่งระหว่างสิทธิมนุษยชนกับการทำผิดกฎหมายมันเส้นเดียวกัน การละเมิดสิทธิมนุษยชนคือเจ้าหน้าที่มีความผิด เจ้าหน้าที่ทำ แต่ถ้าทำผิดกฎหมายแล้วมาบอกเจ้าหน้าที่ทำผิด มันก็คงไม่ใช่ สื่อกรุณาทำให้เข้าใจ ทำให้ถูกต้อง
CR:คลังภาพ รัฐบาลไทย