พิจารณาเสร็จแล้ว ปธ.กรธ. ส่งร่างพรป.สส.-สว.ให้สนช.พิจารณาต่อ ย้ำบทลงโทษสส.หนักกว่าเดิม

28 พฤศจิกายน 2560, 14:45น.


หลังจากพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ซึ่งเป็น2 ฉบับสุดท้ายเสร็จสิ้น นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า  ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)เป็นไปตามหลักการที่คะแนนเสียงทุกคะแนนเสียงของประชาชนมีความหมายไม่ว่าจะใช้สิทธ์เลือกใครหรือลงคะแนนไม่เลือกใครเลยก็ตาม ซึ่งผู้ที่ชนะการเลือกตั้งจะต้องมีคะแนนมากกว่าผู้ที่ลงคะแนนไม่เลือกใครเลย ไม่เช่นนั้นจะถือว่า การเลือกตั้งทั้งหมด และผู้ลงสมัครจะไม่สามารถสมัครเข้ามารับเลือกตั้งใหม่ได้อีก และกำหนดเบอร์ผู้สมัครตามเขตเลือกตั้ง ไม่ใช่ตามพรรคการเมืองเพื่อให้พิจารณาทั้งคนและพรรค  รวมถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม  โดยเฉพาะ  เวลาเข้าสมัครจะต้องเอาหลักฐานเสียภาษีมาด้วย ซึ่งรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษีก็จะต้องนำหลักฐานแสดงด้วยเช่นกัน


ขณะที่บทลงโทษก็จะมีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการตัดสิทธิ์หากได้รับโทษจำคุก 1 ปี ก็จะตัดสิทธ์ 5 ปี และเพิ่มขึ้นตามลำดับ จนมากที่สุดคือตัดสิทธ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดไป เช่นกรณีการซื้อเสียง แต่ความผิดจะถือเป็นความผิดส่วนบุคคลไม่ใช้กับพรรค


นายมีชัยยืนยันด้วยว่าการบัญญัติเรื่องระบบการเลือกตั้งไม่ได้คาดการณ์ว่าพรรคที่ได้เสียงข้างมากจะไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้  และเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการคาดเดา เพราะไม่เคยทำในไทยมาก่อน ซึ่งส่วนตัวคิดเพียงว่าต้องการให้ทุกคะแนนของประชาชนมีผลมากที่สุด ส่วนผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับความนิยมของประชาชนเป็นผู้ตัดสิน 


ส่วนร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นายมีชัยกล่าวว่า ภาพรวมเป็นลักษณะการเลือกจากคนที่เข้าไปสมัครจากกลุ่มสาขาอาชีพ ตั้งแต่อำเภอ จังหวัดประเทศ และพยายามป้องกันการฮั้วกัน โดยจัดเป็นสายโดยจับสลาก ให้จับคู่เลือกไขว้กันระหว่างสาย ซึ่งสิ่งที่สังคมได้คือประชาชนชาวรากหญ้าที่ต้องการมีบทบาท นิติบัญญัติโดยไม่ต้องมีพิธีรีตองเพราะไม่ต้องหาเสียง ไม่ต้องใช้เงินเพื่อไม่ยุ่งเกี่ยวการดมือง ไม่สังกัดพรรคการเมืองทำให้มี อิสระ มาจากหลากหลายอาชีพ   ส่วนตัว รู้สึกโล่งใจ วิธีการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเสร็จทันตามกรอบระยะเวลา 240 วันที่กำหนด เพราะในช่วงแรกมีความกังวลบ้างว่าอาจไม่ทัน ก็ได้พยายาม อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตา มนายมีชัยกล่าวอีกว่า  หากในอนาคตจะต้องมีการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ การใช้ผู้ร่างชุดเดียวกันกับ ผู้ร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถือว่ามีความสำคัญเพราะ มีเป้าหมายเดียวกัน และกฎหมายจะได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอีกด้วย  สำหรับ ร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับจะถูกส่งไปยัง  สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ข่าวทั้งหมด

X