เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ศพในเขตฉนวนกาซ่า เมื่ออิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีรอบใหม่ และเป็นผู้เสียชีวิตกลุ่มแรกในช่วงเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตในวันอังคารมีทั้งเด็กและสตรีรวมอยู่ด้วย ซึ่งนายมุสซา อาบู มาร์ซุค ผู้นำฮามาสพลัดถิ่น เปิดเผยว่า เป็นบุตรสาวกับภรรยาของนายโมฮัมหมัด เดอิฟ ผู้นำนักรบฮามาสปีกเอสเซดิน อัล-กัสซาม แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า นายเดอิฟ มีชะตากรรมอย่างไร ทั้งนี้นายเดอิฟรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารหลายครั้ง ซึ่งทำให้เขาต้องกลายเป็นผู้พิการ จากนั้นในเช้าวันพุธมีผู้เสียชีวิต 6 ศพทั้งหมดเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน และมีผู้บาดเจ็บประมาณ 50 คน
อิสราเอล ระบุว่า ในวันอังคารมีจรวดประมาณ 50 ลูกที่ยิงจากฝั่งกาซา ตกในดินแดนอิสราเอล แต่ไม่มีรายงานความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีเสียงไซเรนเตือนภัยดังขึ้นในหลายพื้นที่ รวมถึงในเทล อาวีฟ และ เยรูซาเล็มด้วย ซึ่งเป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงหมดเวลา และการเจรจาที่กรุงไคโร ของอียิปต์สิ้นสุดลงโดยที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ เมื่อผู้แทนของทั้งฝ่ายอิสราเอลแจ้งว่า ต้องการกลับอิสราเอล
ด้านนายอัสซาม อัล อาหมัด ผู้แทนเจรจาฝ่ายปาเลสไตน์ และแกนนำกลุ่มฟาตาห์ กล่าวว่าเป็นความผิดของอิสราเอลที่ทำให้การเจรจาล้มเหลว แต่นายมาร์ค เรเกรฟ โฆษกรัฐบาลอิสราเอล กล่าวว่า การที่ฮามาสยิงจรวดโจมตีอิสราเอลทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินหน้าเจรจากันต่อไป
...F163..