รอยเตอร์ รายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปาหรือโป๊ปฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก เสด็จฯโดยเครื่องบินพระที่นั่งไปถึงสนามบินนครย่างกุ้ง เมียนมา เมื่อเช้าวันนี้ เพื่อเริ่มต้นเยือนเมียนมา 4 วัน โดยโป๊ปฟรานซิส จะพบปะกับนางอองซาน ซูจี ผู้นำสูงสุดของเมียนมาและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ กระแสความนิยมในตัวนางซูจี ในฐานะนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเริ่มตกต่ำ เนื่องจากความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาวิกฤติชาวโรฮิงญา
โป๊ปฟรานซิส จะพบปะกับพลเอกมินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพเมียนมา ขณะเดียวกันถ้อยคำที่โป๊ปฟรานซิส ใช้เรียกผู้อพยพกลุ่มนี้ ก็คงจะได้รับการจับตาดูอย่างใกล้ชิดจากชาวพุทธในเมียนมาว่า โป๊ปฟรานซิสจะทรงเรียกคนกลุ่มนั้นว่าชาวโรฮิงญา ซึ่งมีความหมายในทำนองเหยียดหยามว่า เป็นชาวมุสลิมไร้รัฐ ไร้สัญชาติหรือจะทรงใช้คำว่า ชาวเบงกาลี ซึ่งหมายถึงผู้ลักลอบเข้าเมืองจากบังกลาเทศ ก่อนหน้านี้โป๊ปฟรานซิส ประณามการใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาว่าไม่แตกต่างจากกรณีพี่น้องทำร้ายกันเอง จากนั้นปลายสัปดาห์นี้ โป๊ปฟรานซิส จะเสด็จฯเยือนบังกลาเทศซึ่งจัดตั้งค่ายอพยพรองรับชาวโรฮิงญากว่า 620,000 คนที่หลบหนีมาจากรัฐยะไข่ ทางภาคเหนือของเมียนมา
ด้านรัฐบาลสหรัฐฯและองค์การนิรโทษกรรมสากล กล่าวถึง การใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา โดยเฉพาะการฆาตกรรม,การข่มขืน,การทรมานและการใช้กำลังขับไล่ออกจากที่ดินว่า เป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยสหรัฐฯประณามกองทัพเมียนมา ว่าใช้วิธีกำหนดชาวโรฮิงญาให้หมดไปจากประเทศ
ด้านกองทัพเมียนมา ปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่มีมูลความจริง ในปัจจุบันมีชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในเมียนมาเพียง 7 แสนคนจากจำนวนประชากรทั้งหมด 51 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ โดยชาวคริสต์หลายพันคนในเมียนมาเดินทางโดยรถไฟและรถบัสมุ่งหน้ายังนครย่างกุ้ง ศูนย์กลางการค้าของเมียนมาในวันนี้ เพื่อจะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าโป๊ปฟรานซิสอย่างใกล้ชิด
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP