ข่าวเศรษฐกิจวันนี้ต้องติดตามมาตรการและผลกระทบหลังจากที่ตัวเลขการส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง สภาพัฒน์คาดการณ์ว่าจีดีพีปีนี้น่าจะขยายได้ร้อยละ 3.9 และในช่วง 4 ปีขยายตัวรวมกันร้อยละ 9.7 คิดเป็นมูลค่าเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นถึง 1 ล้าน 2 แสน 7 หมื่น 4 พันล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก โดยตั้งแต่ช่วงต้นปีจนปัจจุบัน แข็งค่าขึ้นมากกว่าร้อยละ 9.8 แล้ว
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ปรับตัวดีขึ้นมากมีการปล่อยสินเชื่อที่ดีขึ้น จึงอนุมัติให้ไอแบงก์สามารถปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ จากเดิมให้ปล่อยเฉพาะรายย่อยเท่านั้น สำหรับการเพิ่มทุนให้ไอแบงก์ มีวงเงินทั้งสิ้น 1 หมื่น 8 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินงบประมาณ 2,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมาจากเงินกองทุนแบงก์รัฐ จำนวน 1 หมื่น 6 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยเพิ่มทุนให้ตามผลการดำเนินงาน
ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ลงทะเบียนรับสวัสดิการรัฐ กระทรวงการคลังจะรวบรวมข้อเสนอแนะเพื่อให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนธันวาคมนี้ นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง มาตรการในรอบนี้ จะให้น้ำหนักไปที่การสร้างงานเพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางรายได้ ซึ่งเป็นนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยยอมรับว่า การสนับสนุนให้คนมากกว่า 10 ล้านคนมีรายได้มากกว่าเส้นความยากจน ต้องใช้เวลาและต้องได้รับความร่วมมือ
ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าธนาคารมีมาตรการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือ 0% ในปีแรกเพื่อสนับสนุนให้เข้าถึงแหล่งทุนสร้างอาชีพ และเงินกู้เพื่อการใช้จ่ายทั่วไป เช่น สินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้าน และสินเชื่อเงินสดทั่วไป นอกจากนี้จะสนับสนุนดอกเบี้ยเงินฝากเป็นอัตราพิเศษ
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยผลการใช้บัตรสวัสดิการรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ถึงปัจจุบัน มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ร้านธงฟ้าแต่ละเดือนอยู่ที่ประมาณ 2 พัน 7 ร้อยล้านบาท ส่วนยอดการใช้บัตร เพื่อการเดินทางยังประเมินไม่ได้เนื่องจากการใช้จ่ายเพิ่งเริ่มเดือนนี้
ที่สำนักงานปลัดกระทรวงการคลังวันนี้จะมีการจัดประชุมชี้แจงและนำสนอข้อมูลมาตรการ แผนงาน โครงการ ของหน่วยงานในสั่งกัดกระทรวงการคลัง อาทิ กรมธนารักษ์ กรมสรรพสามิต สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมบัญชีกลาง กรมศุลกากร เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ประจำปีงานประมาณ 2561
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ ธพส. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธพส. ซึ่งมีนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์เป็นประธานประชุม เมื่อเร็วๆนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบ โครงการจัดหาที่อยู่อาศัยเพื่อข้าราชการผู้มีรายได้น้อย ย่านศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เนื่องจากเห็นว่าแนวทางที่ ธพส.เสนอไปยังไม่เหมาะสม และให้กลับไปหาแนวทางใหม่เพื่อเสนอมาอีกครั้ง โดยมีความกังวลว่า เป็นโครงการที่มีความเสี่ยง และอาจถูกตั้งคำถามว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนหรือไม่
ในช่วงเช้าวันนี้ กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.จร. จัดให้มีพิธีเปิดการประชุมการบริหารจัดการ การใช้ความเร็วเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในกรุงเทพฯ และในสิ้นเดือนนี้ บก.จร. จะเริ่มการบังคับใช้กล้องตรวจจับเปลี่ยนช่องทางกะทันหันหรือกล้องเลนเชนจ์ เพื่อตรวจจับรถฝ่าฝืนเปลี่ยนช่องเดินรถในเขตห้าม ซึ่งมีการทดลองใช้มาตั้งแต่ปี 2556
กำหนดจุดติดตั้ง 15 จุดคือ สะพานแยกบางเขนถนนงามวงศ์วานขาออก, สะพานข้ามแยกศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะขาออก, ทางลอดแยกห้วย ขวางถนนรัชดาภิเษกขาเข้า, สะพานข้ามแยกบรมราชชนนีถนนบรมราชชนนีขาออก, สะพานข้ามแยกวงเวียนบางเขน ถนนแจ้งวัฒนะขาเข้า, สะพานข้ามแยกราชเทวีถนนเพชรบุรีขาออก, แยกสามเหลี่ยมดินแดงถนนดินแดงขาเข้า, สะพานข้ามแยกประชานุกูลถนนรัชดาภิเษกขาออก, สะพานศิริราชด้านถนนอรุณอมรินทร์ถนนอรุณอมรินทร์ขาออก, แยกรัชดา-ลาดพร้าวถนนลาดพร้าว ขาออก, แยกรัชดา-ลาดพร้าวถนนลาดพร้าวขาเข้า, สะพานข้ามแยกวงศ์สว่างถนนรัชดาภิเษกขาออก, สะพานข้ามแยกพระราม 4 ถนนรัชดาภิเษก ขาออก, สะพานพระพุทธยอดฟ้าถนนประชาธิปกขาเข้า, สะพานข้ามแยกกำนันแม้นถนนกัลปพฤกษ์ขาออก ซึ่งเป็นจุดที่พบว่ามีผู้กระทำความผิดเป็นจำนวนมาก
วันนี้ยังต้องติดตาม ความคืบหน้าการเสียชีวิตของ นักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งครอบครัวแถลงเปิดใจขอบคุณพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตลอดจน พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งให้คำมั่นว่าจะให้ความเป็นธรรม โดยยืนยันว่าไม่ได้ต้องการโจมตีหรือมีความขัดแย้งกับโรงเรียนเตรียมทหาร แค่ต้องการทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเท่านั้น
กับยังติดตามคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หลังจากที่เจ้าหน้าที่จับกุมนายสุริยา นวลเจริญ หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม คดีรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ 3 ข้อหา คือ ร่วมกันแจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับคดีอาญาแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จในคดีอาญา และซ่องโจร ตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม โดยในการสอบปากคำนายสุริยา สารภาพว่ามีการปั้นพยานโดยว่าจ้างนายเสริฐ รูปสะอาด และนายสับ วาปี เพื่อให้รับผิดแทนนางจอมทรัพย์ เพื่อให้รื้อฟื้นคดีเป็นคดีใหม่
ด้านนางจอมทรัพย์ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ในวันนี้จะครบกำหนดการควบคุมตัว พนักงานสอบสวนจะส่งตัวขออำนาจศาลจังหวัดนครพนมฝากขังผัดแรก โดยคัดค้านการประกันตัวเพราะโทษมีอัตราสูง และเกรงผู้ต้องหาไปวุ่นวายกับพยาน กับจะมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม
...