ระเบิดที่โรงงานในจีนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก/อียิปต์ประกาศล้างแค้นให้ผู้เสียชีวิตจากก่อการร้าย

27 พฤศจิกายน 2560, 06:15น.


ความคืบหน้าเหตุระเบิดที่โรงงานในอำเภอเจียงเป่ย เมืองท่าหนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ทางใต้ของนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บมากกว่า 12 คนโดยโรงงานที่เกิดเหตุเป็นโรงงานร้างที่อยู่ในระหว่างการรื้อถอน สื่อของทางการจีนรายงานว่า เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลจำนวนมากกว่า 30 คน แต่เจ้าหน้าที่อำเภอเจียงเป่ยเปิดเผยว่า มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยที่กำลังอยู่ในระหว่างการรักษา 16 ราย กับยังมีผู้บาดเจ็บอีกกลุ่มที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ในที่เกิดเหตุเวลานั้นอาจมีคนเก็บขยะอยู่ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และตำรวจเมืองเจียงเป่ยกำลังสอบสวนเพื่อหาสาเหตุ



ส่วนที่สเปน มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 40 คนจากเหตุการณ์พื้นอาคารยุบตัวที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งบนเกาะเตเนริเฟ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง  ทำให้นักเที่ยวหล่นลงไปที่ชั้นใต้ดิน กู้ภัยเปิดเผยว่าที่เกิดเหตุคือไนต์คลับชื่อเดอะ บัตเตอร์ฟลาย ดิสโก้ คลับ ตั้งอยู่ในเมืองอเดเจ ในกลุ่มผู้บาดเจ็บเป็นชายชาวฝรั่งเศส 2 คน, ชายชาวอังกฤษ 2 คน, ชายชาวโรมาเนีย 1 คน, และหญิงชาวเบลเยียม 1 คน กับมีผู้บาดเจ็บ 21 คนที่ได้รับความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ทั้งพบว่ามีผู้บาดเจ็บอีก 18 คนที่เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยตนเองเพื่อรับการรักษา



นายกเทศมนตรีเตเนริเฟ ระบุว่า ไนต์คลับแห่งนี้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง และไม่ได้มีผู้คนแออัดในขณะที่เกิดเหตุ  และตำรวจได้เริ่มการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แล้ว



สำนักข่าวของอียิปต์ รายงานว่า เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายจำนวนประมาณ 25-30 รายบุกโจมตีมัสยิดในจังหวัด นอร์ธ ไซนาย โดยมีการถือธงสัญลักษณ์ของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 305 ราย ซึ่งเป็นเด็ก 27 รายและมีผู้บาดเจ็บ 128 คน ผู้อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า คนร้ายกราดยิงที่ด้านหน้าของมัสยิดก่อน จากนั้นกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้าไปภายในอาคารแล้วกราดยิงซ้ำ พยายามขัดขวางคนที่พยายามหลบหนีออกมา ส่วนอีกกลุ่มก็วางเพลิงรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านนอก



ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซี แห่งอียิปต์ประกาศให้ประชาชนทั่วประเทศร่วมไว้อาลัยเป็นเวลา 3 วัน ให้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยในศาสนสถาน อาคารสำคัญ และประกาศล้างแค้นให้กับผู้เสียชีวิต โดยสั่งการให้กองทัพส่งเครื่องบินรบหลายลำโจมตีฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้าย ซึ่งแม้ว่ากลุ่มไอเอสจะไม่ได้ยอมรับว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ก่อนหน้านี้กลุ่มไอเอสเคยแสดงความเห็นว่า นิกายซูฟีเป็นนิกายนอกรีต ซึ่งไอเอสบนคาบสมุทรไซนายเคยก่อเหตุโจมตีมาแล้วหลายครั้ง นอกจากมุสลิมซูฟีแล้ว ไอเอสยังโจมตีชาวคริสต์และชาวเบดูอิน รวมถึงการลอบวางระเบิดเครื่องบินรัสเซียด้วย



การโจมตียังมีขึ้นในขณะที่ทางการอียิปต์พยายามโน้มน้าวให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน และเพิ่งสิ้นสุดการทำงานตามแผนการปฏิรูปของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ขณะที่กลุ่มอันซาร์ เบต อัล-มักดิส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่เคยให้การสนับสนุนกลุ่มอัล-กออิดะห์ แต่ปัจจุบันประกาศภักดีต่อไอเอส และยกระดับการโจมตีรุนแรงขึ้น



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ร่วมประณามเหตุการณ์ความรุนแรงในศาสนสถาน ซึ่งเขาเห็นว่า ประชาคมโลกควรร่วมกันกดดันผู้ก่อการร้ายด้วยวิธีการทางทหาร และได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีอียิปต์ เพื่อร่วมกล่าวประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุโจมตี



ส่วนที่ซีเรีย กลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่า สงครามที่ดำเนินมานานกว่า 6 ปีทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 343,511 ศพ โดยเป็นประชาชนมากกว่า 100,000 ราย นอกจากนี้เมื่อเช้าวันอาทิตย์กองทัพรัสเซียเพิ่งโจมตีหมู่บ้านอัล ชาฟาห์ ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติสในจังหวัดเดอีร์ เอซซอร์ ทางตะวันออกของซีเรีย ซึ่งเป็นหมู่บ้านในเขตยึดครองของกลุ่มไอเอส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 34 ราย โดยเป็นเด็ก 15 คน



โดยในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่นำโดยนายนาเซอร์ อัล-ฮารีรี จะนำคณะเข้าหารือสันติภาพกับฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ที่สวิตเซอร์แลนด์



ที่ปากีสถาน กองทัพปากีสถานแถลงว่า พร้อมช่วยรัฐบาลสลายการชุมนุมของกลุ่มเตห์รีค อี ลาไบค์ ยา ราซูล อัลเลาะห์ที่ปิดถนนที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงอิสลามาบัดและเมืองราวัลปินดีมานานหลายสัปดาห์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐมนตรียุติธรรมลาออก เนื่องจากมีการแก้ไขคำกล่าวสาบานตนของผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยไม่ได้ระบุให้กล่าวถ้อยคำที่อ้างถึงศาสดามุฮัมมัด ซึ่งผู้ชุมนุมมองว่าเป็นการดูหมิ่นศาสนา แม้รัฐมนตรีจะแถลงขอโทษแล้วและอ้างว่าเป็นความผิดพลาดในขั้นตอนการเตรียมเอกสาร



โดยเมื่อวันเสาร์เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสลายชุมนุมบนถนน ไฟซาบัด อินเตอร์เชนจ์ โดยมีการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ขณะที่ผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยการเผารถ และปิดถนนเพิ่มอีกหลายสาย สถานการณ์รุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 รายบาดเจ็บอีกราว 200 คน



เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียรายงานว่า สายการบินบางแห่งยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกเกาะบาหลี เนื่องจากภูเขาไฟอากุงเกิดการปะทุ หลังจากที่ปะทุครั้งสุดท้ายในปี 2506 แม้หน่วยงานในอินโดนีเซียจะยังไม่ยกระดับการเตือนภัยโดยรวม แต่ยกระดับการเฝ้าระวังภูเขาไฟสำหรับการบิน หรือ NOVA จากระดับสีส้มสู่สีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุด

...

ข่าวทั้งหมด

X