การควบคุมตัวผู้กระทำความผิดฐานปลอมสัญชาติไทย เข้ามาหาผลประโยชน์ ประกอบธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ
พลตำรวจตรีชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 พร้อมด้วย ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ 191 ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายเหลียน แซ่เก่า ชาวจีน อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จังหวัดนครสวรรค์ ในข้อหายื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ ปลอมบัตรปกปิดความจริงต่อเจ้าพนักงาน โดยสามารถจับกุมได้ภายใน ซอยอยู่เจริญ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
พลตำรวจตรีชัยวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจสืบสวนหาการข่าว พบว่านายเหลียน มีพฤติการณ์สวมบัตรประชาชนเป็นคนไทย มาประกอบธุรกิจนำเที่ยว โดยเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท วั้นกั๋ว กั๋วจี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รับนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยนายเหลียน ได้ยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2544 ที่อำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ โดยใช้ชื่อ “นายวิษณุ รัตนะแสงงาม” ซึ่งพบว่ามีการปลอมแปลงข้อมูลด้านอายุ และปีเกิด โดยใช้หมายเลขประจำตัวประชาชน (ขอสงวนหมายเลข) ก่อนจะมีการขอทำบัตรประชาชนอีกครั้งในปี 2547 จนกระทั่งวันที่ 26 กรกฎาคม 2550 นายเหลียน ได้ทิ้งตัวตนที่สวมเป็นนายวิษณุทิ้ง และขอทำบัตรประชาชนใหม่อีกครั้ง เพราะว่าได้ให้บิดาพิสูจน์สัญชาติไทยของตนเองโดยใช้หมายเลขบัตรประชาชน (ขอสงวนหมายเลข) จนถึงปัจจุบัน ซึ่งทำให้นายวิษณุตัวจริงได้รับความเดือดร้อน จึงได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎร และรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ นำไปสู่การออกหมายจับนายเหลียน
จากการตรวจสอบบริษัทนายเหลียนทำกิจการพบว่าในช่วงแรกได้ทำเป็นบริการส่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ก่อนจะมาเริ่มทำธุรกิจทัวร์ต่ำกว่าทุนหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ
พลตำรวจตรีชัยวัฒน์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ว่ามีการสวมบัตรประชาชน สำหรับนายเหลียนเป็นชาวจีน แต่สวมบัตรประชาชนของนายวิษณุ รัตนะแสงงาม ซึ่งเป็นผู้ที่มีตัวตนอยู่จริง หลังจากนี้จึงจะให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ถอนบัตรประชาชนของผู้ต้องหา และจะประสานกระทรวงพาณิชย์ ให้เพิกถอนใบประกอบการ ส่วนกรมท่องเที่ยวจะเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทัวร์
ด้านนายเหลียน ยอมรับว่า สวมบัตรประชาชนของนายวิษณุมาตั้งแต่อายุ 18 ปี เพื่อจะมาประกอบกิจการในประเทศไทย และยอมรับว่าได้ดำเนินการประกอบกิจการทัวร์ศูนย์เหรียญจริง โดยเป็นเครือข่ายย่อย จะทำหน้าที่หานักท่องเที่ยวมาส่งให้กับบริษัททัวร์ โมเดิร์น โดยตนเพิ่งเริ่มทำกิจการทัวร์ได้เพียง 2 เดือนก่อนจะโดนเจ้าหน้าที่เข้ากวาดล้างและจับกุม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ. เมืองนครสวรรค์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาในเชิงลึกยัง ทราบว่ามีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีก 2 คนคือนายอายี้น้อยหรือซ้ง แสนหมี่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหา "ยื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ ปลอมบัตรปกปิดความจริงต่อเจ้าพนักงาน" ซึ่งหลบหนีไปประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2560 จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเจ้าของบริษัท ที.ยู.เอ็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เริ่มดำเนินกิจการท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2555 โดยนำท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต และ นายจง หรือทรงไพศาลกิจ แซ่ม้า ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดแม่สอด ในข้อหา "ยื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็จเท็จ ปลอมบัตรปกปิดความจริงต่อเจ้าพนักงาน" ซึ่งหลบหนีไปประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2560 จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเจ้าของบริษัท ไทย จง หัว ทราเวล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด เริ่มกิจการตั้งแต่ปี 2555 และขณะนี้ได้นำทรัพย์สินกว่าร้อยล้านบาทหลบหนีไปด้วย
นอกจากนี้เข้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบว่ามีบ้านหลังหนึ่งที่จังหวัดนครสวรรค์ มีคนเข้าออกทะเบียนบ้านนับร้อยคน ซึ่งเชื่อว่าเป็นสถานที่แปลงสัญชาติให้เป็นสัญชาติไทยก่อนจะกระจายออกไป โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนในทางลับ
....
ผสข.ปภาดา พูลสุข